(SF) KHR: Beautiful in White - 1859TYL
Title: Beautiful in White
Fandom: Katekyoshi Hitman Reborn! (c) Amano Akira
Couple: H.Kyoya x G.Hayato (1859TYL)
Author: ph1859 / devilz79
"ฮายาโตะ ไปทะเล"
"ฮะ...ไม่ไป"
ร่างโปร่งในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ปลายรุ่ยออกมาจากกางเกงสแลคสีน้ำตาลเข้มขมวดคิ้วมุ่น เมื่อได้ยินประโยคที่ออกมาจากชายในชุดสีดำเช่นเดียวกับผมและสีตา
"ไม่ได้ชวน"
เสียงนิ่งตอบคำปฏิเสธ แล้วเอื้อมมือไปคว้าข้อมือเล็กแต่แข็งแรง
"ไปบ้าอะไรเล่า ยังต้องทำงาน แล้วพรุ่งนี้จะมีประชุมรวมของผู้พิทักษ์อีก ไม่ไปเว้ย"
ดวงตาคมมองคนที่ยังดื้อดึง
"ประชุมยกเลิก แล้วฉันไปบอกเจ้านั่นไว้แล้ว ว่านายจะลา นายต้องไปทะเลกับฉัน"
โกคุเดระ ฮายาโตะกรอกตากับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย ไม่ได้ปรึกษาเขาสักนิด ปั๊ดโถ่โว้ยยยย ไอ้บ้าเคียวยะ !!
"นี่กระเป๋านาย" ร่างสูงชูกระเป๋าสีดำใบเล็กขึ้นมา
เออ ให้มันได้แบบนี้สิ !!
"แล้วเป็นบ้าอะไรทำไมอยากไปทะเลตอนนี้" ตอนนี้นั้นหมายถึง ณ ปัจจุบัน ใช่ ณ ตอนนี้ที่เขานั่งอยู่บนรถยุโรปคันหรูที่ฝั่งคนขับนั้นคือไอ้บ้าหน้าตายหัวดำที่กำลังเหยียบคันเร่งแทบมิด
"เปล่านี่"
"โว้ยยย แกมีอะไร แกเป็นอะไร บอกฉันมา" ถึงจะไม่ค่อยแน่ใจกับหน้าราบเรียบแบบนี้ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่มันล้นออกมาจากดวงตาคมกริบที่คล้ายจะไร้ความรู้สึก
"ฉันไม่เคยมาทะเลกับนาย"
"เออ แล้วไง? แล้วต้องเป็นตอนนี้? สถานการณ์ที่วองโกเล่มันยังไม่น่าไว้วางใจเลยนะเว้ย"
"ใช่"
แค่คำตอบเดียว และความเงียบก็เข้าคลุมรถกับใบหน้าเซงอารมณ์ของโกคุเดระ ฮายาโตะ
เสียงคลื่นที่ตีเข้ากระทบบนหาดทรายสีมืด เหมือนกับท้องฟ้าด้านบน จุดประกายเล็กๆ ของดวงดาวสะท้อนลงมา
"นายมันโคตรบ้าเลย ไอ้บ้าเอ๊ย กับเรื่องแค่นี้จะต้องเล่นใหญ่ด้วย" โกคุเดระยกยิ้มให้กับร่างที่นั่งบนโขดหินอยู่ข้างๆ "ก็เดี๋ยวก็กลับมาพร้อมอาเจ้ไม่ใช่รึไง"
เหตุผลที่ต้องลากเขามาในวันนี้ เพราะอีกฝ่ายต้องออกเดินทางเพื่อตามหาที่มาของแหวนและกล่อง ซึ่งน่าจะกินเวลานาน
มันคือเหตุผลที่เขาต้องมาชมวิวทะเลยามดึกแบบนี้
บ้าบอชะมัด…
"...นายอยากโดนขย้ำใช่มั้ย"
"แล้วไง ก็เลยบึ่งมาทะเลแบบนี้ เพราะแค่อยากมาทะเลด้วยกันนี่นะ แล้วตอนนี้จะเล่นน้ำก็ไม่ได้" นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน
กว่าจะถึงก็ดึกแล้ว แต่ฮิบาริกลับดื้อดึงและบังคับข่มขู่ที่จะออกมาทะเล แทนการอาบน้ำนอนและรอเล่นน้ำทะเลตอนเช้า
"แกเป็นเด็กหรือไง ต้องเล่นน้ำทะเล" คำถามเสียงนิ่งที่ยิงกลับมา พาให้คนฟังหันขวับแล้วหรี่ตามองด้วยความหงุดหงิด
"แล้วแกมาทะเลเพื่ออะไร มาตากลมเค็มเรอะ !?"
ยิ่งตากลมหลังอาบน้ำ มันไม่ใช่เรื่องน่าพิสมัยเท่าไร
แต่ก็ยังถือว่าโชคดี ที่ชุดที่เจ้านี่หยิบมาให้มันเป็นชุดเบาลู่ไปกับลม และไม่อมเหงื่อ เสื้อคอวีและกางเกงผ้าฝ้ายขายาวสีขาวผ้าเบาสบายตัว เหมาะกับการทิ้งตัวลงบนที่นอนมากกว่าบนโขดหินแบบนี้
"นายมันเป็นเจ้าสัตว์เล็ก"
ดวงตาสีดำเช่นเดียวกับท้องฟ้าจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมสีเขียวที่สะท้อนสีเข้มของบรรยากาศ ดวงตาคู่ที่มักมีความฉุนเฉียว และแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเสมอ
...ไม่เหมือนเขา
"อะไร จะขย้ำฉันหรือไง" ตัวเล็กผงะถอยออกไป
...และไม่เคยอ่านสายตาเขาออกเลย
สายลมเอื่อยของลมทะเลยามกลางคืน พัดคลื่นให้กระทบฝั่งจนเกิดเป็นริ้วสีขาว เรือนผมสีเงินถูกพัดให้เปิดเห็นกรอบหน้า ดวงตาสีแปลก ริมฝีปากเรียว ไล่ไปลำคอระหงที่กำลังเชิดท้าทายสายตาคู่ตรงข้าม
เสื้อสีขาวลู่เข้ากับลำตัวบางที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง ไม่ได้บอบบาง
"เกลียด"
สิ้นคำ ร่างบางรับรู้ได้ถึงความอำมหิตจากสายตาสีดำ "เอ้า...ก็นายถาม ฉันก็ตอบ" กับคำถามที่ว่าครั้งแรกที่เจอรู้สึกยังไง
ไม่รู้ว่านึกครึ้มอะไรถึงถาม
เพราะบรรยากาศแบบนี้เหรอ
ลมทะเลอ่อนๆ กับท้องฟ้าสีดำที่มีเม็ดทรายประกายแสงเต็มผืนแบบนี้
"ฮายาโตะ"
"เออ แค่ไม่ชอบขี้หน้าก็ได้" คิดว่าคำตอบคงไม่ได้เปลี่ยนนัยยะไปจากเดิมเท่าไร "ก็นายมันดึงดูดรุ่นที่สิบ น่าหมั่นไส้ชะมัด" ก็ในตอนแรกเขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
"ฉันเปล่า"
โกคุเดระกลอกตาด้วยความหมั่นไส้เป็นรอบที่ล้าน ด้วยความเก่งในระดับที่เขาสัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน เพราะแบบนั้นจึงดึงดูด
...แล้วก็เกลียดพอๆ กัน
"แล้วนายอ่ะ" เขาไม่ค่อยชอบตัวเองในเวลาแบบนี้สักเท่าไร ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง หรือควรพูดอะไรออกไป
หึ...
เสียงหัวเราะจากลำคอหนา กรอบหน้าที่กำลังแหงนมองท้องฟ้าสีเข้ม ปลายจมูกเรียวโด่งที่ไม่เหมือนกับคนญี่ปุ่นทั่วไป กรอบหน้าชัดเจนได้รูป ผิวขาวแบบคนญี่ปุ่นยิ่งขับให้โดดเด่นในความมืด
ดวงตาคมหันมาสบดวงตากลมที่กำลังแสดงออกถึงความรู้สึกข้างใน
ขัดเขิน แต่แสร้งทำเป็นฉุนเฉียว
"ก็คงคล้ายๆ กับนาย ไม่ชอบขี้หน้า" เสียงเข้มตอบกลับมา พลางนึกถึงวันที่ปะทะกันครั้งแรก แทบไม่ต้องมีคำพูดคำจา คนที่กล้าบุกรุกห้องรับแขกของเขา ไม่มีข้อยกเว้น
ยิ่งคนที่กล้าสูบบุหรี่และเอาวัตถุไวไฟเข้ามาในนามิโมริ
ผมสีเงิน ดวงตาสีเขียว
เป็นการผสมผสานที่แปลกประหลาด ไม่คุ้นตา ภาพของเด็กหนุ่มอายุที่ไม่น่าเกิน 15 ปี ที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ในร้านสะดวกซื้อที่เหมือนกำลังง่วนกับการตั้งค่าอะไรสักอย่างบนหน้าจอดิจิตัล
ทว่าเสียงเรียกจากผู้เป็นลูกน้องที่วิ่งมาทางด้านหลังพาให้ฮิบาริ เคียวยะต้องละสายตาออกจากภาพเบื้องหน้า
ผิวสีขาวซีด ลำคอยาวระหง มือเรียวที่ดูบอบบาง แต่กลับซ่อนความเข้มแข็งเอาไว้
"ไม่น่าเชื่อเลย ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดนี้" เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต นับตั้งแต่วันแรกที่พบกัน เวลาก็บินผ่านไปเกือบสิบปี และยิ่งไม่น่าเชื่อว่าคนที่เขาตราหน้าว่าเป็นศัตรูในใจ จะแปรเปลี่ยนสถานภาพทางความรู้สึกไปได้มากมายขนาดนี้
ดวงตาสีเขียวมองไปรอบกาย ก่อนจะหยุดชะงักกับสายตาที่จ้องลึกมา
...ไอ้บ้านี่จะต้องอยากขย้ำเขาแน่ๆ เขาทำอะไรผิด !?
"นายหยุดคิดอะไรบ้าๆ ได้แล้วน่า" เสียงเข้มเอ่ยตัดกับความสงสัยในดวงตาของอีกฝ่าย "นายนี่มันไม่รู้อะไรจริงๆ" บ่นเสียงเบากับความคิดประหลาดที่มันมักจะเข้ามาแทรก และแสดงออกอย่างชัดเจนจนน่าหงุดหงิดเสมอ
แต่ก็นี่แหละ โกคุเดระ ฮายาโตะ
"ก็เวลาแกมองฉัน มัน..." เสียงเบาบางขาดหายไปในลำคอ คนตัวเล็กกว่ามุ่ยหน้าแล้วก้มลงมองพื้น ทำไมอยู่ๆ ก็เหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ฮิบาริ เคียวยะเลิกคิ้วกับเสียงที่หายไป รอยยิ้มเล็กเจือไว้ที่มุมปาก เอื้อมมือไปดันคางของคนที่ก้มหน้าให้เงยขึ้นมา
...และมองเข้าไปข้างในลูกแก้วสีมรกต
"ฮายาโตะ..."
เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกเหมือนกับถูกสาป หัวใจข้างในมันกลับช้าจนเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น ดวงตาสีดำสนิทกับแววตาที่ซับซ้อน ราบเรียบ แต่อบอุ่นและคุ้นเคย
ที่เขาไม่กล้ามองตรงๆ มาเป็นเวลานาน
เพราะมันแฝงไปด้วยคำพูดมากมาย เกินกว่าที่เขาจะรับได้
เพราะเขิน
บ้าบอชะมัด
ไม่มีใครแน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างโกคุเดระ ฮายาโตะกับฮิบาริ เคียวยะมันเริ่มต้นมาจากตรงไหน แม้แต่เจ้าตัวทั้งสองคนเอง แต่เมื่อทุกคนรู้สึกตัวจะเห็นสายลมที่พัดพาก้อนเมฆไป
หากแต่วันนี้
"ฮายาโตะ..." เสียงเรียบเอ่ยชื่อคนตรงข้าม "อยู่กับฉันนะ" ดวงตาสีนิลยังคงเป็นเช่นเดิม
เช่นเดียวกัน ดวงตาสีเขียวพยายามหลุบที่จะไม่สบตา "ก...ก็นี่ไง อยู่นี่ไง ฉัน...ฉันไม่ได้ไปไหนซะหน่อย โวะ...นายเป็นบ้ารึไง" เฉไฉ แม้ในใจลึกๆ แล้วจะรู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร
...เพราะบรรยากาศทะเลแบบนี้แน่ๆ
ถึงทำให้เจ้าบ้านี่พูดอะไรแบบนี้ออกมา
ดวงตาสีนิลยังเหมือนเดิม แต่เหมือนจะเพิ่มเติมความเหนื่อยหน่ายในอารมณ์
"ฉันจะไม่อยู่นาน แล้วฉันอยากจะมั่นใจว่าจะไม่มีไอ้บ้าที่ไหนมายุ่มย่ามกับนาย" เสียงที่เป็นปกติทะลุเข้าโสตประสาทของคนผมเงินที่มือข้างหนึ่งถูกมือของอีกฝ่ายจับเอาไว้
อีกมือของฮิบาริเอื้อมลงไปควานหาของบางอย่างในกระเป๋ากางเกง
"เพราะฉะนั้นนายต้องใส่มันไว้ ห้ามถอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เข้าใจมั้ย" ยกมือข้างซ้าย ก่อนจะสวมวัตถุกลมเกลี้ยงเข้าไปจากปลายนิ้วนางของคนที่กำลังประมวลผลสารที่ได้รับ
...แหวนสีเงิน
"ฮ..ฮะ?"
ดวงตากลมจ้องมองแหวนสีเงินที่อยู่บนมือ
มันไม่ใช่แหวนเงิน แต่เป็นทองคำขาว
"น...นายทำบ้าอะไรเนี่ย" เสียงสั่นเครือโวยวายเมื่อเรียบเรียงได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง "ทำไม..." ไม่รู้ตัวว่าใบหน้าขาวซีดนั้นถูกแต้มไว้ด้วยสีระเรื่อ
ลมทะเลเย็นพัดเข้าปะทะใบหน้า เส้นผมสีดำที่เรียงตัวถูกพัดสะบัดตามแรงลมนั้น
"..."
"ไอ้บ้าเอ๊ย" โกคุเดระกัดริมฝีปากตัวเอง แล้วยกหมัดชกเข้าที่แผ่นอกของอีกฝ่าย
เขาเห็นในดวงตาสีดำคู่นี้
คำถามแผ่วเบาจากดวงตาที่เย็นชา แต่มันอุ่น
...ได้ไหม
อยู่กับฉันได้ไหม
"แล้วครั้งนี้นายจะไปนานแค่ไหนนะ" เอ่ยถามคนที่นั่งข้างๆ สัมผัสเย็นของแหวนสีสะอาดหายไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ความอุ่นๆ จากอุณหภูมิของร่างกาย
"ไม่แน่ใจ แต่ก็น่าจะนานกว่าทุกครั้ง" เสียงเรียบตอบกลับ "ก็คงนาน...กว่าจะได้เจอกัน"
โกคุเดระเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ เมื่อรู้สึกแปลกกับการเว้นช่วงคำว่า 'นาน' ของอีกฝ่าย อย่างมากก็แค่ 1-2 เดือน แต่ทำไมครั้งนี้เจ้าบ้านี่ถึงได้ทำให้เขารู้สึกว่ามันจะนาน...กว่านั้น
เขารับรู้สถานการณ์ที่ค่อยๆ ตึงเครียดของวองโกเล่จากผู้บุกรุกภายนอก และความลึกลับของอุปกรณ์อย่างแหวนและกล่อง ที่แม้จะเป็นตัวช่วยในการต่อสู้ แต่ก็ยังเคลือบแคลงด้วยความสงสัย
ครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่ฮิบาริ และเบียงกี้ออกตามหาที่มาของกล่อง
"นั่นสินะ..."
"อือ"
"ก็จะรอ..." เสียงเบาของชายหนุ่มผมสีเงินเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางเสียงลม "...แต่ก็ไม่คาดหวังหรอกนะ" แล้วหัวเราะเบาๆ แต่ไม่แน่ใจว่าทำไมข้างในลึกๆ รู้สึกเหมือนอยากจะให้น้ำตาไหลออกมา
เหมือนเป็นประโยคที่เคยได้ยินผ่านหู
เดจาวูรึไง ?
สงสัยจะนอนน้อยไป
"นั่นสินะ..." เสียงราบเรียบเอ่ยออกมาสั้นๆ ดวงตาสีมืดมองไปตามริ้วคลื่นสีขาวที่เข้ามากระทบฝั่ง
จะรอ...แต่ไม่คาดหวังงั้นเหรอ
ก็เหมาะกับเขาและเจ้านี่ดี
ดวงตาสีนิลมองกรอบหน้าเรียวของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เสียงที่คุ้นเคยกำลังบ่นเรื่องงานยังคงเข้าหูอยู่เหมือนเดิม ดวงตาที่มีขนตาเป็นแพ ยังคงแสดงอารมณ์ข้างในออกมาอย่างชัดเจน
...ถ้าเล่นโป๊กเกอร์คงโดนกินเรียบอย่างแน่นอน
ผิวหน้าเนียนละเอียด แก้มที่ตอบลงตามโครงหน้าและอายุที่เพิ่มขึ้น ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ามองนั้นลดลงเลย ปลายจมูกโด่งเพราะเชื้อสายยุโรปเชิดรั้นขึ้นเหมือนจงใจกวนประสาทอยู่ตลอดเวลา ริมฝีปากที่กำลังพูดเจื้อยแจ้ว ด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคย คุ้นชินตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ลำคอเรียวยาวไล่ละมาจนถึงบ่าที่มีแต่กล้ามเนื้อ ปกคลุมด้วยเสื้อคอวีสีขาว กับกางเกงผ้าฝ้ายขายาวสีขาว ลมเบาๆ ที่พัดก็พาให้ผ้ามันลู่ไปตามลำตัว
ฝ่ามือซ้ายที่วางเท้าไว้ข้างลำตัว บนนิ้วนั้นมีแหวนสีเงินเกลี้ยงประดับอยู่
เป็นคำมั่นสัญญา
"แหวนล่ะ"
เสียงเรียบถามคนตรงหน้าที่กำลังทำตัววุ่นวายกับการใส่เนคไทสีแดงเลือดหมู นอกจากวันนี้จะเป็นวันประชุมของผู้พิทักษ์แล้ว ยังเป็นวันที่เขาและเบียงกี้จะออกตามหาที่มาของแหวนและกล่อง
"นี่ไงเล่า" ชูนิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมา ในขณะนิ้วอื่นๆ กลับหุบกำลง
"..."
เสียงหัวเราะสะใจกับการได้ยั่วประสาทอีกฝ่าย พาให้ชายหนุ่มผมดำหรี่ตาลงมองด้วยความเย็นยะเยียบ
...ไร้สาระ
มือเรียวจะขยับเนคไทบนคอให้เข้าที่ หากแต่กลับโดนมือของอีกฝ่ายปัดออก ดวงตาสีเขียวตวัดมองคนที่สอดมือเข้ามาเหมือนจะโวยวาย
ฮิบาริขยับเนคไทเส้นนั้นให้อยู่กึ่งกลางระหว่างลำตัว
ดวงตาสีเขียวหลุบมองที่มือ ไม่อาจสบตาสีดำที่อยู่ในระยะประชิด ทำไม...หัวใจมันเต้นช้าลง
"นี่ เคียวยะ..."
เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว แล้วมองเข้าไปในตาที่ค่อยๆ เงยขึันมา
"กลับมาเร็วๆ นะเว้ย"
หยักยิ้มมุมปากจางๆ ปรากฏบนใบหน้าที่มักจะเรียบเฉย "อือ" เสียงในลำคอคือคำตอบ ใบหน้าคมก้มลงไปประทับริมฝีปากบนมุมปากของอีกฝ่าย
นานแค่ไหน...
อีกนานแค่ไหนกัน
เรียวคิ้วที่ยักขึ้นแทนสัญญาณการโบกมือ ดวงตาที่คุ้นเคยจ้องกลับมาด้วยคำพูดมากมายจากดวงตาคู่นั้น
ฮิบาริ เคียวยะที่ยืนอยู่ข้างรถยุโรปคันหรู มองใบหน้าของคนที่อยู่ในระยะไกล ก่อนร่างนั้นจะหันหลังกลับเพื่อเดินเข้าไปในอาคารของวองโกเล่
กลับมาเร็วๆ นะ...
ฮายาโตะ
ฉันจะรอ...แต่ไม่คาดหวัง
Fandom: Katekyoshi Hitman Reborn! (c) Amano Akira
Couple: H.Kyoya x G.Hayato (1859TYL)
Author: ph1859 / devilz79
----- B E A U T I F U L I N W H I T E -----
"ฮายาโตะ ไปทะเล"
"ฮะ...ไม่ไป"
ร่างโปร่งในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ปลายรุ่ยออกมาจากกางเกงสแลคสีน้ำตาลเข้มขมวดคิ้วมุ่น เมื่อได้ยินประโยคที่ออกมาจากชายในชุดสีดำเช่นเดียวกับผมและสีตา
"ไม่ได้ชวน"
เสียงนิ่งตอบคำปฏิเสธ แล้วเอื้อมมือไปคว้าข้อมือเล็กแต่แข็งแรง
"ไปบ้าอะไรเล่า ยังต้องทำงาน แล้วพรุ่งนี้จะมีประชุมรวมของผู้พิทักษ์อีก ไม่ไปเว้ย"
ดวงตาคมมองคนที่ยังดื้อดึง
"ประชุมยกเลิก แล้วฉันไปบอกเจ้านั่นไว้แล้ว ว่านายจะลา นายต้องไปทะเลกับฉัน"
โกคุเดระ ฮายาโตะกรอกตากับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย ไม่ได้ปรึกษาเขาสักนิด ปั๊ดโถ่โว้ยยยย ไอ้บ้าเคียวยะ !!
"นี่กระเป๋านาย" ร่างสูงชูกระเป๋าสีดำใบเล็กขึ้นมา
เออ ให้มันได้แบบนี้สิ !!
"แล้วเป็นบ้าอะไรทำไมอยากไปทะเลตอนนี้" ตอนนี้นั้นหมายถึง ณ ปัจจุบัน ใช่ ณ ตอนนี้ที่เขานั่งอยู่บนรถยุโรปคันหรูที่ฝั่งคนขับนั้นคือไอ้บ้าหน้าตายหัวดำที่กำลังเหยียบคันเร่งแทบมิด
"เปล่านี่"
"โว้ยยย แกมีอะไร แกเป็นอะไร บอกฉันมา" ถึงจะไม่ค่อยแน่ใจกับหน้าราบเรียบแบบนี้ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่มันล้นออกมาจากดวงตาคมกริบที่คล้ายจะไร้ความรู้สึก
"ฉันไม่เคยมาทะเลกับนาย"
"เออ แล้วไง? แล้วต้องเป็นตอนนี้? สถานการณ์ที่วองโกเล่มันยังไม่น่าไว้วางใจเลยนะเว้ย"
"ใช่"
แค่คำตอบเดียว และความเงียบก็เข้าคลุมรถกับใบหน้าเซงอารมณ์ของโกคุเดระ ฮายาโตะ
เสียงคลื่นที่ตีเข้ากระทบบนหาดทรายสีมืด เหมือนกับท้องฟ้าด้านบน จุดประกายเล็กๆ ของดวงดาวสะท้อนลงมา
"นายมันโคตรบ้าเลย ไอ้บ้าเอ๊ย กับเรื่องแค่นี้จะต้องเล่นใหญ่ด้วย" โกคุเดระยกยิ้มให้กับร่างที่นั่งบนโขดหินอยู่ข้างๆ "ก็เดี๋ยวก็กลับมาพร้อมอาเจ้ไม่ใช่รึไง"
เหตุผลที่ต้องลากเขามาในวันนี้ เพราะอีกฝ่ายต้องออกเดินทางเพื่อตามหาที่มาของแหวนและกล่อง ซึ่งน่าจะกินเวลานาน
มันคือเหตุผลที่เขาต้องมาชมวิวทะเลยามดึกแบบนี้
บ้าบอชะมัด…
"...นายอยากโดนขย้ำใช่มั้ย"
"แล้วไง ก็เลยบึ่งมาทะเลแบบนี้ เพราะแค่อยากมาทะเลด้วยกันนี่นะ แล้วตอนนี้จะเล่นน้ำก็ไม่ได้" นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน
กว่าจะถึงก็ดึกแล้ว แต่ฮิบาริกลับดื้อดึงและบังคับข่มขู่ที่จะออกมาทะเล แทนการอาบน้ำนอนและรอเล่นน้ำทะเลตอนเช้า
"แกเป็นเด็กหรือไง ต้องเล่นน้ำทะเล" คำถามเสียงนิ่งที่ยิงกลับมา พาให้คนฟังหันขวับแล้วหรี่ตามองด้วยความหงุดหงิด
"แล้วแกมาทะเลเพื่ออะไร มาตากลมเค็มเรอะ !?"
ยิ่งตากลมหลังอาบน้ำ มันไม่ใช่เรื่องน่าพิสมัยเท่าไร
แต่ก็ยังถือว่าโชคดี ที่ชุดที่เจ้านี่หยิบมาให้มันเป็นชุดเบาลู่ไปกับลม และไม่อมเหงื่อ เสื้อคอวีและกางเกงผ้าฝ้ายขายาวสีขาวผ้าเบาสบายตัว เหมาะกับการทิ้งตัวลงบนที่นอนมากกว่าบนโขดหินแบบนี้
"นายมันเป็นเจ้าสัตว์เล็ก"
ดวงตาสีดำเช่นเดียวกับท้องฟ้าจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมสีเขียวที่สะท้อนสีเข้มของบรรยากาศ ดวงตาคู่ที่มักมีความฉุนเฉียว และแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเสมอ
...ไม่เหมือนเขา
"อะไร จะขย้ำฉันหรือไง" ตัวเล็กผงะถอยออกไป
...และไม่เคยอ่านสายตาเขาออกเลย
สายลมเอื่อยของลมทะเลยามกลางคืน พัดคลื่นให้กระทบฝั่งจนเกิดเป็นริ้วสีขาว เรือนผมสีเงินถูกพัดให้เปิดเห็นกรอบหน้า ดวงตาสีแปลก ริมฝีปากเรียว ไล่ไปลำคอระหงที่กำลังเชิดท้าทายสายตาคู่ตรงข้าม
เสื้อสีขาวลู่เข้ากับลำตัวบางที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง ไม่ได้บอบบาง
Not sure if you know this
But when we first met
But when we first met
"เกลียด"
สิ้นคำ ร่างบางรับรู้ได้ถึงความอำมหิตจากสายตาสีดำ "เอ้า...ก็นายถาม ฉันก็ตอบ" กับคำถามที่ว่าครั้งแรกที่เจอรู้สึกยังไง
ไม่รู้ว่านึกครึ้มอะไรถึงถาม
เพราะบรรยากาศแบบนี้เหรอ
ลมทะเลอ่อนๆ กับท้องฟ้าสีดำที่มีเม็ดทรายประกายแสงเต็มผืนแบบนี้
"ฮายาโตะ"
"เออ แค่ไม่ชอบขี้หน้าก็ได้" คิดว่าคำตอบคงไม่ได้เปลี่ยนนัยยะไปจากเดิมเท่าไร "ก็นายมันดึงดูดรุ่นที่สิบ น่าหมั่นไส้ชะมัด" ก็ในตอนแรกเขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
"ฉันเปล่า"
โกคุเดระกลอกตาด้วยความหมั่นไส้เป็นรอบที่ล้าน ด้วยความเก่งในระดับที่เขาสัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน เพราะแบบนั้นจึงดึงดูด
...แล้วก็เกลียดพอๆ กัน
"แล้วนายอ่ะ" เขาไม่ค่อยชอบตัวเองในเวลาแบบนี้สักเท่าไร ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง หรือควรพูดอะไรออกไป
หึ...
เสียงหัวเราะจากลำคอหนา กรอบหน้าที่กำลังแหงนมองท้องฟ้าสีเข้ม ปลายจมูกเรียวโด่งที่ไม่เหมือนกับคนญี่ปุ่นทั่วไป กรอบหน้าชัดเจนได้รูป ผิวขาวแบบคนญี่ปุ่นยิ่งขับให้โดดเด่นในความมืด
ดวงตาคมหันมาสบดวงตากลมที่กำลังแสดงออกถึงความรู้สึกข้างใน
ขัดเขิน แต่แสร้งทำเป็นฉุนเฉียว
"ก็คงคล้ายๆ กับนาย ไม่ชอบขี้หน้า" เสียงเข้มตอบกลับมา พลางนึกถึงวันที่ปะทะกันครั้งแรก แทบไม่ต้องมีคำพูดคำจา คนที่กล้าบุกรุกห้องรับแขกของเขา ไม่มีข้อยกเว้น
ยิ่งคนที่กล้าสูบบุหรี่และเอาวัตถุไวไฟเข้ามาในนามิโมริ
I got so nervous I couldn't speak
ผมสีเงิน ดวงตาสีเขียว
เป็นการผสมผสานที่แปลกประหลาด ไม่คุ้นตา ภาพของเด็กหนุ่มอายุที่ไม่น่าเกิน 15 ปี ที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ในร้านสะดวกซื้อที่เหมือนกำลังง่วนกับการตั้งค่าอะไรสักอย่างบนหน้าจอดิจิตัล
ทว่าเสียงเรียกจากผู้เป็นลูกน้องที่วิ่งมาทางด้านหลังพาให้ฮิบาริ เคียวยะต้องละสายตาออกจากภาพเบื้องหน้า
ผิวสีขาวซีด ลำคอยาวระหง มือเรียวที่ดูบอบบาง แต่กลับซ่อนความเข้มแข็งเอาไว้
"ไม่น่าเชื่อเลย ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดนี้" เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต นับตั้งแต่วันแรกที่พบกัน เวลาก็บินผ่านไปเกือบสิบปี และยิ่งไม่น่าเชื่อว่าคนที่เขาตราหน้าว่าเป็นศัตรูในใจ จะแปรเปลี่ยนสถานภาพทางความรู้สึกไปได้มากมายขนาดนี้
ดวงตาสีเขียวมองไปรอบกาย ก่อนจะหยุดชะงักกับสายตาที่จ้องลึกมา
...ไอ้บ้านี่จะต้องอยากขย้ำเขาแน่ๆ เขาทำอะไรผิด !?
"นายหยุดคิดอะไรบ้าๆ ได้แล้วน่า" เสียงเข้มเอ่ยตัดกับความสงสัยในดวงตาของอีกฝ่าย "นายนี่มันไม่รู้อะไรจริงๆ" บ่นเสียงเบากับความคิดประหลาดที่มันมักจะเข้ามาแทรก และแสดงออกอย่างชัดเจนจนน่าหงุดหงิดเสมอ
แต่ก็นี่แหละ โกคุเดระ ฮายาโตะ
"ก็เวลาแกมองฉัน มัน..." เสียงเบาบางขาดหายไปในลำคอ คนตัวเล็กกว่ามุ่ยหน้าแล้วก้มลงมองพื้น ทำไมอยู่ๆ ก็เหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ฮิบาริ เคียวยะเลิกคิ้วกับเสียงที่หายไป รอยยิ้มเล็กเจือไว้ที่มุมปาก เอื้อมมือไปดันคางของคนที่ก้มหน้าให้เงยขึ้นมา
...และมองเข้าไปข้างในลูกแก้วสีมรกต
"ฮายาโตะ..."
เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกเหมือนกับถูกสาป หัวใจข้างในมันกลับช้าจนเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น ดวงตาสีดำสนิทกับแววตาที่ซับซ้อน ราบเรียบ แต่อบอุ่นและคุ้นเคย
ที่เขาไม่กล้ามองตรงๆ มาเป็นเวลานาน
เพราะมันแฝงไปด้วยคำพูดมากมาย เกินกว่าที่เขาจะรับได้
เพราะเขิน
บ้าบอชะมัด
In that very moment
I found the one and
My life had found its missing piece
I found the one and
My life had found its missing piece
ไม่มีใครแน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างโกคุเดระ ฮายาโตะกับฮิบาริ เคียวยะมันเริ่มต้นมาจากตรงไหน แม้แต่เจ้าตัวทั้งสองคนเอง แต่เมื่อทุกคนรู้สึกตัวจะเห็นสายลมที่พัดพาก้อนเมฆไป
หากแต่วันนี้
"ฮายาโตะ..." เสียงเรียบเอ่ยชื่อคนตรงข้าม "อยู่กับฉันนะ" ดวงตาสีนิลยังคงเป็นเช่นเดิม
เช่นเดียวกัน ดวงตาสีเขียวพยายามหลุบที่จะไม่สบตา "ก...ก็นี่ไง อยู่นี่ไง ฉัน...ฉันไม่ได้ไปไหนซะหน่อย โวะ...นายเป็นบ้ารึไง" เฉไฉ แม้ในใจลึกๆ แล้วจะรู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร
...เพราะบรรยากาศทะเลแบบนี้แน่ๆ
ถึงทำให้เจ้าบ้านี่พูดอะไรแบบนี้ออกมา
ดวงตาสีนิลยังเหมือนเดิม แต่เหมือนจะเพิ่มเติมความเหนื่อยหน่ายในอารมณ์
"ฉันจะไม่อยู่นาน แล้วฉันอยากจะมั่นใจว่าจะไม่มีไอ้บ้าที่ไหนมายุ่มย่ามกับนาย" เสียงที่เป็นปกติทะลุเข้าโสตประสาทของคนผมเงินที่มือข้างหนึ่งถูกมือของอีกฝ่ายจับเอาไว้
อีกมือของฮิบาริเอื้อมลงไปควานหาของบางอย่างในกระเป๋ากางเกง
"เพราะฉะนั้นนายต้องใส่มันไว้ ห้ามถอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เข้าใจมั้ย" ยกมือข้างซ้าย ก่อนจะสวมวัตถุกลมเกลี้ยงเข้าไปจากปลายนิ้วนางของคนที่กำลังประมวลผลสารที่ได้รับ
...แหวนสีเงิน
"ฮ..ฮะ?"
ดวงตากลมจ้องมองแหวนสีเงินที่อยู่บนมือ
มันไม่ใช่แหวนเงิน แต่เป็นทองคำขาว
"น...นายทำบ้าอะไรเนี่ย" เสียงสั่นเครือโวยวายเมื่อเรียบเรียงได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง "ทำไม..." ไม่รู้ตัวว่าใบหน้าขาวซีดนั้นถูกแต้มไว้ด้วยสีระเรื่อ
ลมทะเลเย็นพัดเข้าปะทะใบหน้า เส้นผมสีดำที่เรียงตัวถูกพัดสะบัดตามแรงลมนั้น
"..."
"ไอ้บ้าเอ๊ย" โกคุเดระกัดริมฝีปากตัวเอง แล้วยกหมัดชกเข้าที่แผ่นอกของอีกฝ่าย
เขาเห็นในดวงตาสีดำคู่นี้
คำถามแผ่วเบาจากดวงตาที่เย็นชา แต่มันอุ่น
...ได้ไหม
อยู่กับฉันได้ไหม
So as long as I live I love you
Will have and hold you
Will have and hold you
"แล้วครั้งนี้นายจะไปนานแค่ไหนนะ" เอ่ยถามคนที่นั่งข้างๆ สัมผัสเย็นของแหวนสีสะอาดหายไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ความอุ่นๆ จากอุณหภูมิของร่างกาย
"ไม่แน่ใจ แต่ก็น่าจะนานกว่าทุกครั้ง" เสียงเรียบตอบกลับ "ก็คงนาน...กว่าจะได้เจอกัน"
โกคุเดระเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ เมื่อรู้สึกแปลกกับการเว้นช่วงคำว่า 'นาน' ของอีกฝ่าย อย่างมากก็แค่ 1-2 เดือน แต่ทำไมครั้งนี้เจ้าบ้านี่ถึงได้ทำให้เขารู้สึกว่ามันจะนาน...กว่านั้น
เขารับรู้สถานการณ์ที่ค่อยๆ ตึงเครียดของวองโกเล่จากผู้บุกรุกภายนอก และความลึกลับของอุปกรณ์อย่างแหวนและกล่อง ที่แม้จะเป็นตัวช่วยในการต่อสู้ แต่ก็ยังเคลือบแคลงด้วยความสงสัย
ครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่ฮิบาริ และเบียงกี้ออกตามหาที่มาของกล่อง
"นั่นสินะ..."
"อือ"
"ก็จะรอ..." เสียงเบาของชายหนุ่มผมสีเงินเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางเสียงลม "...แต่ก็ไม่คาดหวังหรอกนะ" แล้วหัวเราะเบาๆ แต่ไม่แน่ใจว่าทำไมข้างในลึกๆ รู้สึกเหมือนอยากจะให้น้ำตาไหลออกมา
เหมือนเป็นประโยคที่เคยได้ยินผ่านหู
เดจาวูรึไง ?
สงสัยจะนอนน้อยไป
"นั่นสินะ..." เสียงราบเรียบเอ่ยออกมาสั้นๆ ดวงตาสีมืดมองไปตามริ้วคลื่นสีขาวที่เข้ามากระทบฝั่ง
จะรอ...แต่ไม่คาดหวังงั้นเหรอ
ก็เหมาะกับเขาและเจ้านี่ดี
And from now til my very last breath
This day I'll cherish
This day I'll cherish
ดวงตาสีนิลมองกรอบหน้าเรียวของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เสียงที่คุ้นเคยกำลังบ่นเรื่องงานยังคงเข้าหูอยู่เหมือนเดิม ดวงตาที่มีขนตาเป็นแพ ยังคงแสดงอารมณ์ข้างในออกมาอย่างชัดเจน
...ถ้าเล่นโป๊กเกอร์คงโดนกินเรียบอย่างแน่นอน
ผิวหน้าเนียนละเอียด แก้มที่ตอบลงตามโครงหน้าและอายุที่เพิ่มขึ้น ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ามองนั้นลดลงเลย ปลายจมูกโด่งเพราะเชื้อสายยุโรปเชิดรั้นขึ้นเหมือนจงใจกวนประสาทอยู่ตลอดเวลา ริมฝีปากที่กำลังพูดเจื้อยแจ้ว ด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคย คุ้นชินตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ลำคอเรียวยาวไล่ละมาจนถึงบ่าที่มีแต่กล้ามเนื้อ ปกคลุมด้วยเสื้อคอวีสีขาว กับกางเกงผ้าฝ้ายขายาวสีขาว ลมเบาๆ ที่พัดก็พาให้ผ้ามันลู่ไปตามลำตัว
ฝ่ามือซ้ายที่วางเท้าไว้ข้างลำตัว บนนิ้วนั้นมีแหวนสีเงินเกลี้ยงประดับอยู่
เป็นคำมั่นสัญญา
You look so beautiful in white
...Tonight
...Tonight
"แหวนล่ะ"
เสียงเรียบถามคนตรงหน้าที่กำลังทำตัววุ่นวายกับการใส่เนคไทสีแดงเลือดหมู นอกจากวันนี้จะเป็นวันประชุมของผู้พิทักษ์แล้ว ยังเป็นวันที่เขาและเบียงกี้จะออกตามหาที่มาของแหวนและกล่อง
"นี่ไงเล่า" ชูนิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมา ในขณะนิ้วอื่นๆ กลับหุบกำลง
"..."
เสียงหัวเราะสะใจกับการได้ยั่วประสาทอีกฝ่าย พาให้ชายหนุ่มผมดำหรี่ตาลงมองด้วยความเย็นยะเยียบ
...ไร้สาระ
มือเรียวจะขยับเนคไทบนคอให้เข้าที่ หากแต่กลับโดนมือของอีกฝ่ายปัดออก ดวงตาสีเขียวตวัดมองคนที่สอดมือเข้ามาเหมือนจะโวยวาย
ฮิบาริขยับเนคไทเส้นนั้นให้อยู่กึ่งกลางระหว่างลำตัว
ดวงตาสีเขียวหลุบมองที่มือ ไม่อาจสบตาสีดำที่อยู่ในระยะประชิด ทำไม...หัวใจมันเต้นช้าลง
"นี่ เคียวยะ..."
เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว แล้วมองเข้าไปในตาที่ค่อยๆ เงยขึันมา
"กลับมาเร็วๆ นะเว้ย"
หยักยิ้มมุมปากจางๆ ปรากฏบนใบหน้าที่มักจะเรียบเฉย "อือ" เสียงในลำคอคือคำตอบ ใบหน้าคมก้มลงไปประทับริมฝีปากบนมุมปากของอีกฝ่าย
นานแค่ไหน...
อีกนานแค่ไหนกัน
What we have is timeless
My love is endless
My love is endless
เรียวคิ้วที่ยักขึ้นแทนสัญญาณการโบกมือ ดวงตาที่คุ้นเคยจ้องกลับมาด้วยคำพูดมากมายจากดวงตาคู่นั้น
ฮิบาริ เคียวยะที่ยืนอยู่ข้างรถยุโรปคันหรู มองใบหน้าของคนที่อยู่ในระยะไกล ก่อนร่างนั้นจะหันหลังกลับเพื่อเดินเข้าไปในอาคารของวองโกเล่
กลับมาเร็วๆ นะ...
ฮายาโตะ
ฉันจะรอ...แต่ไม่คาดหวัง
And with this ring I say to the world
You're my every reason
You're all that I believe in
With all my heart I mean every word
You're my every reason
You're all that I believe in
With all my heart I mean every word
The End
แต่งที่ที่สุดเลย อ่ย
ตอบลบ