(SF) KHR: Even Now - 275918 / 185927
Title: Even Now
Fandom: Katekyoshi Hitman Reborn! (c) Amano Akira
Couple: 275918 / 185927
Author: ph1859 / devilz79
Inspiration: Even Now - Nina
...ซาวาดะ สึนะโยชิ...
ก้านดอกกุหลาบสีขาวถูกปล่อยออกจากฝ่ามือเรียวแต่กร้านจากการจับแต่อาวุธเหล็ก ดอกกุหลาบร่วงหล่นบนกองดินที่เทินสูงขึ้นมาทับถมโลงไม้สีเข้มเอาไว้ ป้ายหินสลักชื่อเจ้าของร่างกายที่นอนอยู่ภายใต้ธุลี
ดวงตาสีเข้มเช่นเดียวกับสีผมจ้องมองป้ายชื่อนั้น รอยยิ้มหยันเหยียดขึ้นมาบนใบหน้าที่ดูคล้ายจะเย็นชาเสมอ แต่หากตอนนี้ภายในของเขาอยากจะกระชากคอเสื้อของคนที่นอนหลับสบายใต้พื้นดินนั้นขึ้นมา แต่มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร
“นี่ แกน่ะ นอนไปนานเกินไปมั้ย”
เสียงเรียบเอ่ยขึ้นกับกองดินที่ไร้การโต้ตอบ
“...ฉันน่ะ...อดทนกับเจ้านั่นไม่ได้เก่งเหมือนแกหรอกนะ เจ้าสัตว์กินพืช” ดวงตาสีนิลปิดลงด้วยเปลือกตา ภาพปรากฎในความมืดที่สั่นเครือ
.
.
“แผนนี้จะมีแค่เราสามคนเท่านั้นนะครับที่ทราบ ผมขอให้ทุกคนรักษาความลับนี้ แล้วก็ทำตามแผนอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นด้วยนะครับ” ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไหม้จ้องหน้าผู้ร่วมชะตากรรมอีกสองคน หนึ่งคนพยักหน้าอย่างแข็งขัน อีกคนใช้เพียงสายตาสีดำเข้มจ้องกลับมา
แผนการที่จะต้องเอาชีวิตของเขา ซาวาดะ สึนะโยชิ เข้าเป็นเหยื่อล่อเพื่อเรียกแหวนวองโกเล่จากอดีตให้กลับมา
อิริเอะ โชอิจิออกจากห้องประชุมไปแล้ว
“คุณฮิบาริครับ...” เสียงเข้มของชายหนุ่มที่เติบโตขึ้น เรียกให้คนที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องประชุมอีกคนหันกลับมา “เพราะว่าแผนนี้รู้กันแค่พวกเราสามคน ถ้าผมเป็นอะไรไป โกคุเดระคุงคงจะโวยวายและหัวเสียแน่ๆ...” ผู้พิทักษ์วายุ มือขวาที่ให้ความสำคัญกับเขาเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือเป็นอย่างไร
“มันก็...อาจจะสร้างความลำบากให้คุณฮิบารินิดหน่อย” เสียงเข้มที่ค่อยๆ เจือจางลงเมื่อต้องไหว้วานคนที่แข็งแกร่งที่สุด และจับมาเป็นพันธมิตรยากที่สุด “...แต่...ยังไงก็ช่วยดูโกคุเดระคุงให้ด้วยนะครับ”
รอยยิ้มแปลกประหลาดยกขึ้นมาบนใบหน้า “ฉันไม่รับฝากสัตว์กินพืช”
.
.
“แก...”
ดวงตาสีเขียวเหม่อลอย จ้องมองไปยังร่างสีดำที่เพิ่งเดินออกจากห้องปลอดเชื้อ ที่เข้าไปพร้อมกับร่างบนเตียงของซาวาดะ สึนะโยชิ แต่หากกลับมาออกมาเพียงคนเดียว
“รุ่นที่สิบกำลังพักฟื้นใช่มั้ย”
ฮิบาริ เคียวยะก้มมองคนที่ปราดเข้ามาถาม ใบหน้าอิดโรย เปรอะเปื้อนไปด้วยเหงื่อ ฝุ่น ควันปืน หากแต่สิ่งที่กำลังเว้าวอนอยู่ในดวงตาคู่นั้น กลับเป็นคำตอบที่เขาไม่สามารถให้ได้
“เจ้านั่นตายแล้ว”
สายตานับสิบคู่พุ่งตรงมายังร่างสูงคล้ายเป็นคำถาม เหมือนได้ยินคำตอบนั้นไม่ชัดเจน
มือสีขาวซีดตะปบเข้ากับปกคอเสื้อสูทสีดำสนิท ยิ่งทำให้เห็นว่ามือนั้นซีดมากแค่ไหน ดวงตาสีเขียวแข็งกร้าวเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ที่มันกำลังจะหยดลงมาเป็นน้ำตาที่ไม่มีวันหยุดไหล
“แก...”
ฮิบาริ เคียวยะปลดทอนฟาแล้วกระแทกเข้าปลายคางของคนที่กำลังจะกระชากคอเสื้อของเขา แล้วแหกปากตะโกน ปฏิเสธความจริงที่เขาเพิ่งจะบอกออกไป ร่างโปร่งที่โดนจู่โจมกระทันหันทรุดลงพื้น แต่หากมือข้างที่ว่างของคนที่ทำร้ายช้อนเอวนั้นขึ้นมา
“เฮ้ย ฮิบาริ นายทำอะไรวะ” เสียงเอะอะของผู้พิทักษ์แห่งอรุณดังโพล่งขึ้นมาท่ามกลางความสับสนของทุกคน ร่างที่กำลังจะปราดพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของฮิบาริ เคียวยะเป็นรอบที่สองถูกล็อคไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแรงของยามาโมโตะ ทาเคชิที่กำลังมองร่างของเพื่อนที่ไร้สติอยู่ในวงแขนของฮิบาริ
“มันคงดีกับโกคุเดระที่สุดแล้ว”
.
.
“โว้ย อะไรของแกเนี่ย กลับฝั่งแกไปได้แล้วโว้ยยย” เสียงเอะอะโวยวายจากคนผมเงินที่กำลังรุนแผ่นอกคนที่ยืนจ้องมองเขาด้วยสายตาราบเรียบ ไม่ได้มีเปลี่ยนแปลงไป
ฮิบาริในชุดยูคาตะตัวหลวม ขมวดคิ้วกับเสียงดังที่แม้จะคุ้นเคย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะอยากจับคนขี้โวยวายตรงนี้ปิดปากให้มันจบเรื่องไปเสียที มือหนาเอื้อมไปจับปลายคางขาว ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปสัมผัสริมฝีปากที่เขาสัมผัสมันมาไม่รู้จักกี่ครั้ง แต่ว่า...ก็ไม่เคยอยากจะผละออกเลยสักครั้ง
เสียงอื้ออึงในลำคอคล้ายจะประท้วงคนที่รุกรานเข้ามา แต่หากฝ่ามือที่เคยผลักไสกลับแตะเพียงแผ่วเบาบนแผ่นอกใต้ผ้าผืนบาง ความอบอุ่นเจือจางจากคนที่มีแววตาเย็นชาที่สุด ไร้วิญญาณมากที่สุด
หากแต่...
“อื้ออ...พอ..แล้ว...” ใบหน้าสีฝาดผละออกมาจากใบหน้าคมเข้มที่คล้ายจะตามเข้ามา
โกคุเดระ ฮายาโตะจ้องมองลงไปในดวงตาสีดำที่มันมักจะยั่วอารมณ์โมโหเขาเสมอ ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานแค่ไหนที่มีดวงตาคู่นี้มองเขามาตลอด คนที่ทำให้เขากลับมายืนขึ้นอีกครั้งก็คือเจ้าของดวงตาที่แสนจะเย็นชา ไร้ความรู้สึกคนนี้
นับตั้งแต่เรื่องนั้น คนที่ทำให้เขากลับมาทุ่มสมาธิไปกับการฝึกซ้อมเพื่อสร้างฐานที่แข็งแกร่งให้กับวองโกเล่ก็คือ ฮิบาริ เคียวยะ หรือก็คือถูกลากให้ไปเป็นคู่ซ้อมบ้าพลัง แต่ทุกครั้งที่จำได้ว่าสลบไปในห้องฝึกซ้อม พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นสายตานิ่งเฉยที่กำลังจ้องกลับมา ที่เขารับรู้ได้มากกว่าความเฉยชานั้น
“ขอบคุณนะ”
“ไร้สาระ” เสียงนิ่งบอกปัดคำขอบคุณที่เขาได้ยินมาเป็นครั้งที่ร้อย หรือครั้งที่ล้านก็จำไม่ได้ เพราะมันไม่ได้เป็นสิ่งที่เขาอยากจะฟังจากปากของคนคนนี้
“เออ งั้นก็กลับไปได้แล้วโว้ยยยย” เสียงโวยวายกลับมาดังตามปกติอีกครั้งหนึ่ง มือเรียวผลักอกร่างหนาให้พ้นจากบริเวณห้องส่วนตัวของตนเอง “พรุ่งนี้ฉันจะทดลองอาวุธอันใหม่ มาเป็นคู่ซ้อมให้ด้วย”
ประตูบานเลื่อนถูกปิดลง
ร่างสูงโปร่งยังคงยืนอยู่เบื้องหลังบานประตูนั้น
...ยังคงยืนอยู่อย่างนั้น
.
.
‘แผนล้มเหลว’
ข้อความสั้นๆ ที่ถูกส่งเข้ามา แสดงบนจอโทรศัพท์มือถือของคนที่เพิ่งจะวางร่างที่สลบไสลลงบนฟูกสีสะอาด ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองร่างที่ไม่เคยรู้อะไรและไม่สมควรที่จะต้องรู้เรื่องใดๆ
ฟันที่ขบกันจนเห็นเป็นสันที่ข้างแก้ม ดวงตาสีเข้มที่แข็งกร้าวจนไม่อาจอ่านความรู้สึกภายใต้แววตาได้ นิ้วเรียวพิมพ์ข้อความสั้นๆ กลับไป
‘เขาตายแล้ว’
.
.
เสียงร้องไห้ที่ปนมากับเสียงเครือที่กำลังร้องเรียกชื่อของซาวาดะ สึนะโยชิดังลอดแผ่นประตูออกมา ยามวิกาลที่ทุกเสียงพร้อมใจกันเงียบ หากแต่มีเพียงเสียงเบาๆ ที่ดังขึ้น
กำลังกังวาลอยู่ในโสตประสาทของคนที่ยังคงยืนอยู่เบื้องหลังบานประตู
มือเรียวแตะลงบนแผ่นไม้ แม้อยากจะผลักออกไปแล้วเข้าไปหาคนข้างในมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแต่ยืนตรงนี้...แค่ฟัง
ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ที่เขาได้แต่ฟัง และรอให้เสียงนั้นเงียบหายไปจากความเหนื่อยล้าของเจ้าตัว
เสียงเงียบลงแล้ว
ฮิบาริเลื่อนบานประตูออก ก่อนจะตรงไปยังที่ที่เขาเคยไปเป็นประจำ ทุกๆ คืน ยังคงเป็นภาพเดิมที่เขาเห็นซ้ำมาเนิ่นนาน ดวงตาที่บวมช้ำแม้จะปิดสนิท น้ำตาที่ยังคงรินไหล ลำตัวที่จะสั่นคลอนจากการสะอื้นไห้แม้จะหลับไหลไปแล้ว
ร่างสูงขบฟันแน่น
มือหนาเอื้อมไปปาดน้ำตาที่ยังคงไหล ไม่ว่าจะเช็ดสักเท่าไร...ก็ไม่มีวันหมดไป
ฮิบาริ เคียวยะ ลุกขึ้นจากกองดินที่ไม่มีวันที่จะโต้ตอบอะไรกลับมาได้ ดอกกุหลาบสีขาวยังคงร่วงหล่นบนพื้นดินแล้วจะสลายไปตามกาลเวลา
Fandom: Katekyoshi Hitman Reborn! (c) Amano Akira
Couple: 275918 / 185927
Author: ph1859 / devilz79
Inspiration: Even Now - Nina
...ซาวาดะ สึนะโยชิ...
ก้านดอกกุหลาบสีขาวถูกปล่อยออกจากฝ่ามือเรียวแต่กร้านจากการจับแต่อาวุธเหล็ก ดอกกุหลาบร่วงหล่นบนกองดินที่เทินสูงขึ้นมาทับถมโลงไม้สีเข้มเอาไว้ ป้ายหินสลักชื่อเจ้าของร่างกายที่นอนอยู่ภายใต้ธุลี
ดวงตาสีเข้มเช่นเดียวกับสีผมจ้องมองป้ายชื่อนั้น รอยยิ้มหยันเหยียดขึ้นมาบนใบหน้าที่ดูคล้ายจะเย็นชาเสมอ แต่หากตอนนี้ภายในของเขาอยากจะกระชากคอเสื้อของคนที่นอนหลับสบายใต้พื้นดินนั้นขึ้นมา แต่มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร
“นี่ แกน่ะ นอนไปนานเกินไปมั้ย”
เสียงเรียบเอ่ยขึ้นกับกองดินที่ไร้การโต้ตอบ
“...ฉันน่ะ...อดทนกับเจ้านั่นไม่ได้เก่งเหมือนแกหรอกนะ เจ้าสัตว์กินพืช” ดวงตาสีนิลปิดลงด้วยเปลือกตา ภาพปรากฎในความมืดที่สั่นเครือ
.
.
“แผนนี้จะมีแค่เราสามคนเท่านั้นนะครับที่ทราบ ผมขอให้ทุกคนรักษาความลับนี้ แล้วก็ทำตามแผนอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นด้วยนะครับ” ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไหม้จ้องหน้าผู้ร่วมชะตากรรมอีกสองคน หนึ่งคนพยักหน้าอย่างแข็งขัน อีกคนใช้เพียงสายตาสีดำเข้มจ้องกลับมา
แผนการที่จะต้องเอาชีวิตของเขา ซาวาดะ สึนะโยชิ เข้าเป็นเหยื่อล่อเพื่อเรียกแหวนวองโกเล่จากอดีตให้กลับมา
อิริเอะ โชอิจิออกจากห้องประชุมไปแล้ว
“คุณฮิบาริครับ...” เสียงเข้มของชายหนุ่มที่เติบโตขึ้น เรียกให้คนที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องประชุมอีกคนหันกลับมา “เพราะว่าแผนนี้รู้กันแค่พวกเราสามคน ถ้าผมเป็นอะไรไป โกคุเดระคุงคงจะโวยวายและหัวเสียแน่ๆ...” ผู้พิทักษ์วายุ มือขวาที่ให้ความสำคัญกับเขาเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือเป็นอย่างไร
“มันก็...อาจจะสร้างความลำบากให้คุณฮิบารินิดหน่อย” เสียงเข้มที่ค่อยๆ เจือจางลงเมื่อต้องไหว้วานคนที่แข็งแกร่งที่สุด และจับมาเป็นพันธมิตรยากที่สุด “...แต่...ยังไงก็ช่วยดูโกคุเดระคุงให้ด้วยนะครับ”
รอยยิ้มแปลกประหลาดยกขึ้นมาบนใบหน้า “ฉันไม่รับฝากสัตว์กินพืช”
.
.
“แก...”
ดวงตาสีเขียวเหม่อลอย จ้องมองไปยังร่างสีดำที่เพิ่งเดินออกจากห้องปลอดเชื้อ ที่เข้าไปพร้อมกับร่างบนเตียงของซาวาดะ สึนะโยชิ แต่หากกลับมาออกมาเพียงคนเดียว
“รุ่นที่สิบกำลังพักฟื้นใช่มั้ย”
ฮิบาริ เคียวยะก้มมองคนที่ปราดเข้ามาถาม ใบหน้าอิดโรย เปรอะเปื้อนไปด้วยเหงื่อ ฝุ่น ควันปืน หากแต่สิ่งที่กำลังเว้าวอนอยู่ในดวงตาคู่นั้น กลับเป็นคำตอบที่เขาไม่สามารถให้ได้
“เจ้านั่นตายแล้ว”
สายตานับสิบคู่พุ่งตรงมายังร่างสูงคล้ายเป็นคำถาม เหมือนได้ยินคำตอบนั้นไม่ชัดเจน
มือสีขาวซีดตะปบเข้ากับปกคอเสื้อสูทสีดำสนิท ยิ่งทำให้เห็นว่ามือนั้นซีดมากแค่ไหน ดวงตาสีเขียวแข็งกร้าวเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ที่มันกำลังจะหยดลงมาเป็นน้ำตาที่ไม่มีวันหยุดไหล
“แก...”
ฮิบาริ เคียวยะปลดทอนฟาแล้วกระแทกเข้าปลายคางของคนที่กำลังจะกระชากคอเสื้อของเขา แล้วแหกปากตะโกน ปฏิเสธความจริงที่เขาเพิ่งจะบอกออกไป ร่างโปร่งที่โดนจู่โจมกระทันหันทรุดลงพื้น แต่หากมือข้างที่ว่างของคนที่ทำร้ายช้อนเอวนั้นขึ้นมา
“เฮ้ย ฮิบาริ นายทำอะไรวะ” เสียงเอะอะของผู้พิทักษ์แห่งอรุณดังโพล่งขึ้นมาท่ามกลางความสับสนของทุกคน ร่างที่กำลังจะปราดพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของฮิบาริ เคียวยะเป็นรอบที่สองถูกล็อคไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแรงของยามาโมโตะ ทาเคชิที่กำลังมองร่างของเพื่อนที่ไร้สติอยู่ในวงแขนของฮิบาริ
“มันคงดีกับโกคุเดระที่สุดแล้ว”
.
.
“โว้ย อะไรของแกเนี่ย กลับฝั่งแกไปได้แล้วโว้ยยย” เสียงเอะอะโวยวายจากคนผมเงินที่กำลังรุนแผ่นอกคนที่ยืนจ้องมองเขาด้วยสายตาราบเรียบ ไม่ได้มีเปลี่ยนแปลงไป
ฮิบาริในชุดยูคาตะตัวหลวม ขมวดคิ้วกับเสียงดังที่แม้จะคุ้นเคย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะอยากจับคนขี้โวยวายตรงนี้ปิดปากให้มันจบเรื่องไปเสียที มือหนาเอื้อมไปจับปลายคางขาว ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปสัมผัสริมฝีปากที่เขาสัมผัสมันมาไม่รู้จักกี่ครั้ง แต่ว่า...ก็ไม่เคยอยากจะผละออกเลยสักครั้ง
เสียงอื้ออึงในลำคอคล้ายจะประท้วงคนที่รุกรานเข้ามา แต่หากฝ่ามือที่เคยผลักไสกลับแตะเพียงแผ่วเบาบนแผ่นอกใต้ผ้าผืนบาง ความอบอุ่นเจือจางจากคนที่มีแววตาเย็นชาที่สุด ไร้วิญญาณมากที่สุด
หากแต่...
“อื้ออ...พอ..แล้ว...” ใบหน้าสีฝาดผละออกมาจากใบหน้าคมเข้มที่คล้ายจะตามเข้ามา
โกคุเดระ ฮายาโตะจ้องมองลงไปในดวงตาสีดำที่มันมักจะยั่วอารมณ์โมโหเขาเสมอ ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานแค่ไหนที่มีดวงตาคู่นี้มองเขามาตลอด คนที่ทำให้เขากลับมายืนขึ้นอีกครั้งก็คือเจ้าของดวงตาที่แสนจะเย็นชา ไร้ความรู้สึกคนนี้
นับตั้งแต่เรื่องนั้น คนที่ทำให้เขากลับมาทุ่มสมาธิไปกับการฝึกซ้อมเพื่อสร้างฐานที่แข็งแกร่งให้กับวองโกเล่ก็คือ ฮิบาริ เคียวยะ หรือก็คือถูกลากให้ไปเป็นคู่ซ้อมบ้าพลัง แต่ทุกครั้งที่จำได้ว่าสลบไปในห้องฝึกซ้อม พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นสายตานิ่งเฉยที่กำลังจ้องกลับมา ที่เขารับรู้ได้มากกว่าความเฉยชานั้น
“ขอบคุณนะ”
“ไร้สาระ” เสียงนิ่งบอกปัดคำขอบคุณที่เขาได้ยินมาเป็นครั้งที่ร้อย หรือครั้งที่ล้านก็จำไม่ได้ เพราะมันไม่ได้เป็นสิ่งที่เขาอยากจะฟังจากปากของคนคนนี้
“เออ งั้นก็กลับไปได้แล้วโว้ยยยย” เสียงโวยวายกลับมาดังตามปกติอีกครั้งหนึ่ง มือเรียวผลักอกร่างหนาให้พ้นจากบริเวณห้องส่วนตัวของตนเอง “พรุ่งนี้ฉันจะทดลองอาวุธอันใหม่ มาเป็นคู่ซ้อมให้ด้วย”
ประตูบานเลื่อนถูกปิดลง
ร่างสูงโปร่งยังคงยืนอยู่เบื้องหลังบานประตูนั้น
...ยังคงยืนอยู่อย่างนั้น
.
.
‘แผนล้มเหลว’
ข้อความสั้นๆ ที่ถูกส่งเข้ามา แสดงบนจอโทรศัพท์มือถือของคนที่เพิ่งจะวางร่างที่สลบไสลลงบนฟูกสีสะอาด ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองร่างที่ไม่เคยรู้อะไรและไม่สมควรที่จะต้องรู้เรื่องใดๆ
ฟันที่ขบกันจนเห็นเป็นสันที่ข้างแก้ม ดวงตาสีเข้มที่แข็งกร้าวจนไม่อาจอ่านความรู้สึกภายใต้แววตาได้ นิ้วเรียวพิมพ์ข้อความสั้นๆ กลับไป
‘เขาตายแล้ว’
.
.
เสียงร้องไห้ที่ปนมากับเสียงเครือที่กำลังร้องเรียกชื่อของซาวาดะ สึนะโยชิดังลอดแผ่นประตูออกมา ยามวิกาลที่ทุกเสียงพร้อมใจกันเงียบ หากแต่มีเพียงเสียงเบาๆ ที่ดังขึ้น
กำลังกังวาลอยู่ในโสตประสาทของคนที่ยังคงยืนอยู่เบื้องหลังบานประตู
มือเรียวแตะลงบนแผ่นไม้ แม้อยากจะผลักออกไปแล้วเข้าไปหาคนข้างในมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแต่ยืนตรงนี้...แค่ฟัง
ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ที่เขาได้แต่ฟัง และรอให้เสียงนั้นเงียบหายไปจากความเหนื่อยล้าของเจ้าตัว
เสียงเงียบลงแล้ว
ฮิบาริเลื่อนบานประตูออก ก่อนจะตรงไปยังที่ที่เขาเคยไปเป็นประจำ ทุกๆ คืน ยังคงเป็นภาพเดิมที่เขาเห็นซ้ำมาเนิ่นนาน ดวงตาที่บวมช้ำแม้จะปิดสนิท น้ำตาที่ยังคงรินไหล ลำตัวที่จะสั่นคลอนจากการสะอื้นไห้แม้จะหลับไหลไปแล้ว
ร่างสูงขบฟันแน่น
มือหนาเอื้อมไปปาดน้ำตาที่ยังคงไหล ไม่ว่าจะเช็ดสักเท่าไร...ก็ไม่มีวันหมดไป
Even now he thinks about you as he’s climbing up the stairs
And he wonder what to do so I won’t see
ฮิบาริ เคียวยะ ลุกขึ้นจากกองดินที่ไม่มีวันที่จะโต้ตอบอะไรกลับมาได้ ดอกกุหลาบสีขาวยังคงร่วงหล่นบนพื้นดินแล้วจะสลายไปตามกาลเวลา
Even now when he has come so far
He wonders where you are
He wonders why it's still so hard without you
Even now
Finish
สวัสดีฮะ ห่างหายการสวัสดีไปนานจนเริ่มรู้สึกเขินกับการอัพบล็อก :'<
เพลงนี้เป็นเพลงที่โคตรเศร้า แล้วฟัง ฟังจนน้ำตาจะไหล ภาพที่เกิดขึ้นคือก๊กกับบอสแน่นอน
ก็ออกมาเป็นฟิคประมาณนี้
สึนะลูก เป็นบอสหนูต้องเสียสละนะ (ฮ่าาา) ส่วนคุณฮิ ดูได้ลวนลาม แต่ก็ดูนกเนาะ ทำไมเศร้า
มีความเคอะเขินในการจะอัพ
แค่นี้แหละฮะ บัย <3
แงงงง เศร้าตัง แต่เราชอบมากเลยค่ะ เราเสียใจมากที่มาเจอไรท์ช้าไปหน่อยTT ขอบคุณไรท์ที่สร้างผลงานดีๆออกมานะคะ เราชอบภาษาของไรท์มาก แล้วอีกอย่างคู่นี้แรร์มากกก ดีใจที่ได้ชิปคู่เดียวกันนะคะ ขอบคุณนะคะไรท์
ตอบลบขอบคุณมากนะคะ :) ไม่คิดว่าตอนนี้ยังจะเจอแม่ยกคู่นี้อยู่อีกก ปลื้มใจจจ <3 ทางนี้เหงามากเลยค่ะ ยังคงหวีด 1859 กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา 555555
ลบ