Parody Fiction: Dolls (1859+69)
Title: Dolls (Parody)
Paring: 1859+69
Note: พาโรดี้มาจากฟิคเมื่อสิบปีของตัวเอง (ที่ไม่น่าจะตามหาอ่านที่ไหนได้แล้ว เพราะแม้แต่ file เรายังหาไม่เจอ ถถถถ)
Prologue
“ครั้งนี้อยากได้แบบไหนเหรอครับ”
“เรื่องของแก”
ชายหนุ่มผมดำในชุดสีขาวหม่นจากฝุ่นผงของปูนปั้น เอ่ยเพียงสั้นๆ แล้วเดินหนีออกจากร้านของบุรุษเจ้าของเรือผมสีน้ำเงินเข้ม
“อีกแล้วนะครับ...”
เจ้าของร้านพึมพำออกมา พลางระบายลมหายใจกับความเอาแต่ใจของเพื่อนร่วมธุรกิจ ดวงตาสองสีสลับไปมองตุ๊กตาปั้นที่ไร้ชีวิตบนเก้าอี้ไม้ข้างกายของเขา แม้จะเป็นตุ๊กตาปูนปั้น แต่เมื่อมาจากฝีมือของช่างปั้นอย่างฮิบาริ เคียวยะแล้ว รูปปั้นนี้คล้ายกลับว่าจะมีชีวิต โดยไม่ต้องเติมวิญญาณลงไปเลย
เรือนผมที่ถูกลงสีด้วยสีเงินสว่าง ผิวสีขาวอมชมพูคล้ายกระเบื้องเคลือบ นัยน์ตาสีเขียวมรกตใส ปลายจมูกที่ดูรั้น ริมฝีปากเรียวได้รูปถูกจัดวางบนใบหน้าอย่างลงตัว ทุกสัดส่วนของร่างกาย เล็บ นิ้ว เรียวแขน ล้วนถ่ายทอดความทุ่มเทและใส่ใจของผู้สร้าง
จนแทบจะกลายเป็นความหลงใหล
...เจ้าตุ๊กตา
‘แล้วฉันจะมาเอาตอนเย็น’
ป้ายคำสั่งสอดไว้บนมือเรียวของรูปปั้น นั่นทำให้คนผมสีไพลินเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เพราะตามปกติแล้ว ผู้ชายคนนั้นจะนำผลงานมาไว้ที่นี่ และปล่อยให้เขาขายออกไปจนหมด และค่อยมาคุยเรื่องส่วนแบ่งราคากันภายหลัง
ร่างสูงเผลอเอื้อมมือไปแตะท่อนแขนที่คล้ายว่าจะแข็งจากวัสดุ แต่หาก...นุ่ม เบาบาง บอบบางราวกับผิวของเด็ก เมื่อมองบนใบหน้าหวานแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะระบุได้ว่าคือบุรุษเพศ
อาจจะเพราะความนึกครึ้ม อาจจะเพราะอยากลองของ หรืออาจจะแค่อยากก่อกวนช่างปั้นคนนั้น หรือเป็นเพียงความเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ตนเองทำมานับครั้งไม่ถ้วน
มือสองข้างแตะลงบนไหล่ของตุ๊กตา เปลือกตาทั้งสองข้างค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ ก่อนจะถ่ายทอดกระแสบางอย่างเข้าสู่ร่างกายที่ไร้ชีวิต...ที่กำลังจะมีชีวิตในไม่ช้า
สิ่งแรกที่ถ่ายทอดออกไป จะเป็นสิ่งที่เจ้าตุ๊กตาจะจำ...จนกว่าจะสลายไป
“เกลียดคุณฮิบาริ”
- 1 -
"มุคุโร่ แกทำอะไรกับเจ้านั่น"
ร่างโปร่งเจ้าของชื่อหยักยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาสองสีฉายแววขบขันเมื่อเห็นความสงสัยผสมกับความร้อนรนของคนตรงหน้า
"ก็คุณบอกเองนี่ครับ ว่าแล้วแต่ผม"
ชายผมสีดำตวัดอาวุธขึ้นมาพาดไว้บนลำคอของคนที่ยังคงยืนยิ้มอยู่ "แก..." ดวงตาสีดำคมจ้องลึกด้วยความหัวเสีย
"คำสั่งของคุณเอง จะมาโทษผมไม่ได้นะครับ คุณฮิบาริ"
ฮิบาริ เคียวยะกดน้ำหนักลงไปบนท่อนเหล็ก หากแต่มุคุโร่ดีดตัวออกมาก่อนที่จะถูกฟาดด้วยความเกรี้ยวกราดของคนตรงหน้า
"ได้...แกคิดว่าจะทำอะไรฉันได้เพราะเรื่องแค่นี้หรือไง"
"ผมจะรอดูนะครับ คึหึหึ"
- 2 -
"นี่ คุณทะเลาะกับคุณฮิบาริมาอีกแล้วหรือไงครับ" เสียงทักทายคล้ายจะอารมณ์ดีของโรคุโด มุคุโร่ เอ่ยต้อนรับเมื่อเห็นร่างบางในชุดสีขาวมอมแมมเดินเข้ามาพร้อมกับของที่ต้องนำมาส่งให้เขา
คนผมเงินขมวดคิ้วมุ่นเมื่อถูกทักในประเด็นที่ไม่ได้ต้องการจะสนทนาด้วย ทว่าใบหน้านั้นกลับยิ่งสร้างรอยยิ้มพอใจให้แก่เจ้าของคำถาม
แต่ก่อนที่มุคุโร่จะได้พูดอะไร กลับมีเสียงเย็นแต่ดังมากพอจะทะลุกำแพงเข้ามาได้
"กลับบ้านได้แล้ว"
"ฮายะจัง กลับบ้านได้แล้ว"
โรคุโด มุคุโร่กระตุกคิ้วกับ 'คำนามแทนชื่อ' ที่ได้ยิน
"โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย..." คนผมเงินตะโกนออกมาเมื่อได้ยินเสียงเรียก ใบหน้าสีขาวถูกแต้มไว้ด้วยสีแดง ไม่รู้ด้วยความโกรธหรือความเขินอาย ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น
มุคุโร่หันไปมองหน้าคนตัวเล็กกว่าด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้
เขา...อ่อนใจเหลือเกิน
นี่มันเป็นเรื่องเดียวทีเขารู้สึกว่าเขาพ่ายแพ้ต่อฮิบาริ เคียวยะจริงๆ เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนแบบนั้นจะสามารถคิด และพูด 'ชื่อนั้น' ออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย
เขาพอจะเข้าใจความรู้สึกของโกคุเดระ ฮายาโตะขึ้นมาเล็กน้อย
"นี่ ฮิบาริ เรียกชื่อฉันแทนเถอะ"
"ฉันเรียกชื่อนายไม่ได้"
"..."
"ฉันไม่ได้อยากให้นายเกลียดฉัน"
"แต่ตอนนี้ก็เกลียดโว้ย"
"..."
"...แค่เกลียดชื่อที่นายใช้เรียกเฉยๆ มันขนลุก" คนตัวเล็กกว่าพูดเสียงอ้อมแอ้ม เมื่อได้รับความนิ่งเงียบแบบประหลาดจากอีกคน
"งั้น..."
"อะไร"
"ที่รัก"
"หะ"
เสียงระเบิดหัวเราะของคนผมสีน้ำเงินดังขึ้น เมื่อจังหวะโต้ตอบของสองคนตรงหน้าถูกครอบงำด้วยความเงียบไปชั่วขณะ เขาประเมินช่างปั้นตุ๊กตาคนนี้ต่ำเกินไปสินะ
"คุณนี่มัน..." มุคุโร่เม้มปากเพื่อกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองเอาไว้ ฮิบาริ เคียวยะเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าเหนือทุกความคาดหมายของเขาจริงๆ "พอเถอะครับ คุณช่วยกลับไปจีบกันที่บ้านเถอะ"
"มุคุโร่!"
"นี่ ฮิบาริ"
"เรียกฉันว่าเคียวยะ"
"หะ"
"เคียวยะ"
"อ...เอ่อ...เคียวยะก็ได้" แม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่การยอมทำตามคำร้องขอกึ่งบังคับนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร
"ว่า?"
"นายเรียกชื่อฉันไม่ได้จริงๆ น่ะเหรอ ฉันไม่มีค่าพอจะให้นายเรียกชื่อฉันได้เลยเหรอ" เสียงเศร้าเอ่ยถามเบาๆ ทั้งๆ ที่ชื่อนั้นเจ้าตัวก็เป็นคนตั้งให้เขาเอง "...ฉันรู้ว่าฉันก็แค่ลูกน้อง แค่ตุ๊กตาที่นายปั้นขึ้นมา แต่ว่า..."
ร่างสูงระบายลมหายใจยาวออกมา มือหนาเอื้อมไปกระชับมือคนข้างๆ เอาไว้ "ไปด่ามุคุโร่เถอะ หมอนั่นมันทำให้นายเกลียดฉัน ถ้าฉันเรียกชื่อนาย"
"ไอ้เวร..." โกคุเดระพึมพำออกมาเบาๆ เหมือนเสียงหัวเราะกวนประสาทมันจะก้องขึ้นมาอยู่ในหูเสียอย่างนั้น
"อือ"
"แต่...นายไม่ต้องเรียกฉันว่าฮายะจังก็ได้ไหม หรือเรียกแค่นามสกุลมันก็ไม่น่าจะเป็นอะไรหรือเปล่า" พยายามที่จะต่อรอง ใช่...เขาถูกเรียกชื่อว่าโกคุเดระ ฮายาโตะก็จริง แต่การที่ชื่อตัวเองถูกหั่นเหลือแค่ ‘ฮายะ’ รวมถึงการเติม ‘จัง’ เข้าไปข้างหลัง มันค่อนข้างจะประหลาดไปหน่อย
...ก็มากประมาณหนึ่งนั่นแหละ
"นายไม่ชอบชื่อ ฮายะจังเหรอ"
"เออ"
"..."
"แค่ฟังแล้วขนลุกก็ได้"
"แต่ฉันชอบ"
"ฮิบาริ!"
"เคียวยะ"
"เออ เคียวยะ!" เขาเริ่มจะเกลียดผู้ชายตรงหน้าขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว บังคับให้เขาเรียกชื่อตัวเอง ในขณะที่ตัวเองกลับเรียกชื่อเขาด้วยชื่อที่น่าขนลุกนั่น
เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ฮิบาริพูดมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เขาไม่ได้ยินเจ้านั่นเรียกชื่อเขามานานมากแล้ว เขาไม่รู้ว่ายังเกลียดอยู่หรือเปล่า
แม้ว่าในความรู้สึกเลือนลาง เหมือนเขาจะเคย...เกลียดฮิบาริโดยไม่มีเหตุผล และเกลียดอย่างสุดใจ แต่นั้นมันก็รู้สึกเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่เกิดมาแล้วเนิ่นนาน ถ้านอกจากนิสัยเสียที่ชอบเรียกชื่อเขาด้วยชื่อแปลกๆ กับไร้ความรู้สึก และชอบบงการไปบ้าง ที่เหลือมันก็ไม่ได้มีอะไรเลวร้าย
...เขาจะยังเกลียดผู้ที่สร้างเขาขึ้นมาอยู่หรือเปล่านะ
- 4 -
“คิดถึงผมเหรอครับ วันนี้ไม่มีนัดต้องมาส่งงานนี่หน่า”
เสียงทักทายพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่ดูไม่น่าไว้วางใจ พาให้โกคุเดระ ฮายาโตะย่นคิ้วหากันด้วยความรำคาญใจ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เสียงกลั้วหัวเราะหายไปจากคนผมสีน้ำเงินเลย
“นาย...”
“ครับ?”
“ทำไมนายต้องทำให้ฉันเกลียดเคียวยะด้วย”
“เรียกชื่อเขาซะด้วย...”
โกคุเดระก้มหน้างุดเมื่อถูกคำพูดคล้ายจะหยอกล้อกับ ‘ชื่อ’ ที่เขาเรียกผู้เป็นนาย “เถอะน่า...ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย นายก็รู้ไม่ใช่หรือไง ว่ามันจะทำให้ชีวิตฉันลำบาก”
ดวงตาสองสีเจ้าเล่ห์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียว ที่ข้างในสะท้อนภาพของเขา...แต่กลับไม่มีเขา ริมฝีปากเรียวปากกระตุกยิ้มขึ้นมา
“รู้สิครับ รู้ดีด้วย”
“แล้ว...นาย โว้ยยย” เมื่อไม่สามารถกลั่นกรองความหงุดหงิดจากคำตอบออกมาเป็นคำพูดได้ โกคุเดระได้แค่ขมวดคิ้ว พลางร้องออกมาด้วยความโมโหกับการยั่วประสาทของอีกฝ่าย
“ฮายาโตะคุง...” เสียงทุ้มเอ่ยชื่อคนตรงหน้า แล้วเอื้อมมือไปจับนิ้วเรียวของอีกฝ่ายเอาไว้ “ผมอยากเป็นคนเดียวที่เรียกชื่อคุณได้มั้งครับ ไม่สิ...” เว้นวรรคครู่หนึ่ง “...ผมไม่อยากให้คุณฮิบาริได้คุณไปเลยมากกว่า”
น้ำเสียงที่ถ่ายทอดออกมา จังหวะในการพูดที่เชื่องช้า แต่มั่นคง ไม่ได้ทำให้ร่างเล็กรู้สึกว่าคำพูดที่ได้ยินเป็นเพียงคำพูดเล่นๆ หรือเพื่อกวนประสาทของเขาเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ายังไง
“ต...แต่...แต่ฉันต้องทำงานกับเคียวยะ เจ้านั่นเป็นคนสร้างฉันมานะ” พยายามจะพูดอะไรสักอย่างเพื่อทำลายบรรยากาศตรงหน้า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันมีอะไรดีขึ้นเท่าไร
“คุณรู้ไหมครับ...” มือยาวปล่อยมือของอีกฝ่ายออกให้เป็นอิสระ มุคุโร่เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี สองมือประสานกันไว้ “ว่าผมคาดว่าคุณกับคุณฮิบาริจะต้องมีปัญหากันทางใดไม่ก็ทางหนึ่งแน่นอน” หยุดเพื่อมองดูนัยน์ตาคู่เขียวที่ดูจะไม่สบอารมณ์สักเท่าไร คล้ายจะมีคำว่า ‘ก็รู้ตัวนี่’ อยู่กลายๆ
“แล้วถ้าเป็นแบบนั้นยังไง คุณก็น่าจะเลือกที่จะมาหาผม เพราะผมยังไงก็น่าไว้ใจมากที่สุดสำหรับคุณ” หยักยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วหัวเราะเบาๆ เมื่ออีกคนตวัดสายตาขึ้นมามองด้วยคำถามมากมายผ่านทางสายตากับคำพูดของเขา “...ครับๆ ไม่ต้องเห็นด้วยขนาดนั้นก็ได้”
โกคุเดระขมวดคิ้ว ให้ตายเถอะ...พูดออกมาได้ว่าตัวเองน่าไว้ใจมากที่สุด
“แต่คุณฮิบาริเขา...อืออ ค่อนข้างเหนือความคาดหมายของผมไป...เยอะมากเลยละครับ”
คนฟังเลิกคิ้วขึ้นคล้ายเป็นการตั้งคำถาม
“คุณฮิบาริในสมัยก่อนน่ะ เป็นผู้ชายที่...เรียกได้ว่าไร้น้ำใจ ใจดำ ใจร้าย และนิสัยเสียมากที่สุดคนหนึ่งเลยครับ” มุคุโร่กระพริบตาเบาๆ เมื่อหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต “ผมเลยคิดว่าถ้าทำให้คุณกับเขามีปัญหากันได้ มันน่าจะเป็นเรื่องที่น่าสนุกดี...แต่ว่า คนปากหนักแบบนั้นน่ะ กลับหาทางแก้ทางผมซะได้”
“...ด้วยการเปลี่ยนชื่อเรียกฉันไปเรื่อยๆ แบบนั้นน่ะเหรอ”
“เขาทำให้ผมประหลาดใจมากเลย” มุคุโร่หัวเราะเบาๆ ในลำคอ “แล้วก็ทำให้ผม...เสียใจมากเหมือนกัน” ดวงตาสีแปลกจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่ใส
ที่...ไม่เคยมีเขาอยู่
“คุณยังเกลียดคุณฮิบาริอยู่ไหมครับ”
โกคุเดระหลบสายตาที่จ้องมา จริงจังกับคำถาม เขาก็เคยถามตัวเอง เขาก็อยากรู้ว่าเขายังเกลียดฮิบาริ เคียวยะอยู่หรือเปล่า เขา...อยากจะลองให้เจ้านั่นเรียกชื่อเขาดูอีกสักครั้ง
“คุณฮิบาริเขาไม่เสี่ยงที่จะทำให้คุณเกลียดเขาหรอกครับ” คล้ายกับอ่านใจได้ รวมถึงอ่านใจของอีกคนที่มีเพียงชื่ออยู่ในบทสนทนา ตุ๊กตาที่ถูกปั้นมาด้วยความใส่ใจ ความรัก ความหลงไหลขนาดนั้น เขาเป็นเพียงคนที่เติมจิตวิญญาณ ยังไม่สามารถห้ามความรู้สึกได้ แล้วผู้สร้าง...
“งั้นนายก็ช่วยทำให้ฉันไม่เกลียดเคียวยะได้ไหม” คนตัวเล็กยื่นข้อเสนอในความคิด ในเมื่อมุคุโร่เป็นคนที่ทำให้เขาเกลียดได้ ก็ต้องปลดล็อกตรงนี้ได้ด้วยสิ แต่หากก่อนที่โกคุเดระจะได้เอ่ยอะไรเพิ่มเติม
“คุณชอบเขาเหรอครับ?”
“เอ๋...”
“ผมเสียใจจัง”
---- ตัดจบ /me
อิอิ ไม่คาดหวังว่าจะมีตอนต่อนะ เพราะเป็นฟิคพาโรดี้ที่...อือออออ คือเรื่องมันจบไปแล้ว ถ้าคุณฮิไม่ทำตัวมีปัญหา 55555555555555 สิบปีผ่านไปกลับมาอ่านฟิคตัวเอง แล้วพบว่าถ้าคุณฮิเลือกเวย์นี้ก็จะสามารถ Turn เป็นฟิคคอมเมดี้ไปได้เลย
และทำให้การจีบก๊กของมุคุโร่ยากไปอีก
และจะทำให้เรื่องนี้ ไม่กลายเป็น 6959 ไปซะงั้น
Paring: 1859+69
Note: พาโรดี้มาจากฟิคเมื่อสิบปีของตัวเอง (ที่ไม่น่าจะตามหาอ่านที่ไหนได้แล้ว เพราะแม้แต่ file เรายังหาไม่เจอ ถถถถ)
Prologue
“ครั้งนี้อยากได้แบบไหนเหรอครับ”
“เรื่องของแก”
ชายหนุ่มผมดำในชุดสีขาวหม่นจากฝุ่นผงของปูนปั้น เอ่ยเพียงสั้นๆ แล้วเดินหนีออกจากร้านของบุรุษเจ้าของเรือผมสีน้ำเงินเข้ม
“อีกแล้วนะครับ...”
เจ้าของร้านพึมพำออกมา พลางระบายลมหายใจกับความเอาแต่ใจของเพื่อนร่วมธุรกิจ ดวงตาสองสีสลับไปมองตุ๊กตาปั้นที่ไร้ชีวิตบนเก้าอี้ไม้ข้างกายของเขา แม้จะเป็นตุ๊กตาปูนปั้น แต่เมื่อมาจากฝีมือของช่างปั้นอย่างฮิบาริ เคียวยะแล้ว รูปปั้นนี้คล้ายกลับว่าจะมีชีวิต โดยไม่ต้องเติมวิญญาณลงไปเลย
เรือนผมที่ถูกลงสีด้วยสีเงินสว่าง ผิวสีขาวอมชมพูคล้ายกระเบื้องเคลือบ นัยน์ตาสีเขียวมรกตใส ปลายจมูกที่ดูรั้น ริมฝีปากเรียวได้รูปถูกจัดวางบนใบหน้าอย่างลงตัว ทุกสัดส่วนของร่างกาย เล็บ นิ้ว เรียวแขน ล้วนถ่ายทอดความทุ่มเทและใส่ใจของผู้สร้าง
จนแทบจะกลายเป็นความหลงใหล
...เจ้าตุ๊กตา
‘แล้วฉันจะมาเอาตอนเย็น’
ป้ายคำสั่งสอดไว้บนมือเรียวของรูปปั้น นั่นทำให้คนผมสีไพลินเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เพราะตามปกติแล้ว ผู้ชายคนนั้นจะนำผลงานมาไว้ที่นี่ และปล่อยให้เขาขายออกไปจนหมด และค่อยมาคุยเรื่องส่วนแบ่งราคากันภายหลัง
ร่างสูงเผลอเอื้อมมือไปแตะท่อนแขนที่คล้ายว่าจะแข็งจากวัสดุ แต่หาก...นุ่ม เบาบาง บอบบางราวกับผิวของเด็ก เมื่อมองบนใบหน้าหวานแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะระบุได้ว่าคือบุรุษเพศ
อาจจะเพราะความนึกครึ้ม อาจจะเพราะอยากลองของ หรืออาจจะแค่อยากก่อกวนช่างปั้นคนนั้น หรือเป็นเพียงความเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ตนเองทำมานับครั้งไม่ถ้วน
มือสองข้างแตะลงบนไหล่ของตุ๊กตา เปลือกตาทั้งสองข้างค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ ก่อนจะถ่ายทอดกระแสบางอย่างเข้าสู่ร่างกายที่ไร้ชีวิต...ที่กำลังจะมีชีวิตในไม่ช้า
สิ่งแรกที่ถ่ายทอดออกไป จะเป็นสิ่งที่เจ้าตุ๊กตาจะจำ...จนกว่าจะสลายไป
“เกลียดคุณฮิบาริ”
- 1 -
"มุคุโร่ แกทำอะไรกับเจ้านั่น"
ร่างโปร่งเจ้าของชื่อหยักยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาสองสีฉายแววขบขันเมื่อเห็นความสงสัยผสมกับความร้อนรนของคนตรงหน้า
"ก็คุณบอกเองนี่ครับ ว่าแล้วแต่ผม"
ชายผมสีดำตวัดอาวุธขึ้นมาพาดไว้บนลำคอของคนที่ยังคงยืนยิ้มอยู่ "แก..." ดวงตาสีดำคมจ้องลึกด้วยความหัวเสีย
"คำสั่งของคุณเอง จะมาโทษผมไม่ได้นะครับ คุณฮิบาริ"
ฮิบาริ เคียวยะกดน้ำหนักลงไปบนท่อนเหล็ก หากแต่มุคุโร่ดีดตัวออกมาก่อนที่จะถูกฟาดด้วยความเกรี้ยวกราดของคนตรงหน้า
"ได้...แกคิดว่าจะทำอะไรฉันได้เพราะเรื่องแค่นี้หรือไง"
"ผมจะรอดูนะครับ คึหึหึ"
- 2 -
"นี่ คุณทะเลาะกับคุณฮิบาริมาอีกแล้วหรือไงครับ" เสียงทักทายคล้ายจะอารมณ์ดีของโรคุโด มุคุโร่ เอ่ยต้อนรับเมื่อเห็นร่างบางในชุดสีขาวมอมแมมเดินเข้ามาพร้อมกับของที่ต้องนำมาส่งให้เขา
คนผมเงินขมวดคิ้วมุ่นเมื่อถูกทักในประเด็นที่ไม่ได้ต้องการจะสนทนาด้วย ทว่าใบหน้านั้นกลับยิ่งสร้างรอยยิ้มพอใจให้แก่เจ้าของคำถาม
แต่ก่อนที่มุคุโร่จะได้พูดอะไร กลับมีเสียงเย็นแต่ดังมากพอจะทะลุกำแพงเข้ามาได้
"กลับบ้านได้แล้ว"
"ฮายะจัง กลับบ้านได้แล้ว"
โรคุโด มุคุโร่กระตุกคิ้วกับ 'คำนามแทนชื่อ' ที่ได้ยิน
"โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย..." คนผมเงินตะโกนออกมาเมื่อได้ยินเสียงเรียก ใบหน้าสีขาวถูกแต้มไว้ด้วยสีแดง ไม่รู้ด้วยความโกรธหรือความเขินอาย ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น
มุคุโร่หันไปมองหน้าคนตัวเล็กกว่าด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้
เขา...อ่อนใจเหลือเกิน
นี่มันเป็นเรื่องเดียวทีเขารู้สึกว่าเขาพ่ายแพ้ต่อฮิบาริ เคียวยะจริงๆ เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนแบบนั้นจะสามารถคิด และพูด 'ชื่อนั้น' ออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย
เขาพอจะเข้าใจความรู้สึกของโกคุเดระ ฮายาโตะขึ้นมาเล็กน้อย
"นี่ ฮิบาริ เรียกชื่อฉันแทนเถอะ"
"ฉันเรียกชื่อนายไม่ได้"
"..."
"ฉันไม่ได้อยากให้นายเกลียดฉัน"
"แต่ตอนนี้ก็เกลียดโว้ย"
"..."
"...แค่เกลียดชื่อที่นายใช้เรียกเฉยๆ มันขนลุก" คนตัวเล็กกว่าพูดเสียงอ้อมแอ้ม เมื่อได้รับความนิ่งเงียบแบบประหลาดจากอีกคน
"งั้น..."
"อะไร"
"ที่รัก"
"หะ"
เสียงระเบิดหัวเราะของคนผมสีน้ำเงินดังขึ้น เมื่อจังหวะโต้ตอบของสองคนตรงหน้าถูกครอบงำด้วยความเงียบไปชั่วขณะ เขาประเมินช่างปั้นตุ๊กตาคนนี้ต่ำเกินไปสินะ
"คุณนี่มัน..." มุคุโร่เม้มปากเพื่อกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองเอาไว้ ฮิบาริ เคียวยะเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าเหนือทุกความคาดหมายของเขาจริงๆ "พอเถอะครับ คุณช่วยกลับไปจีบกันที่บ้านเถอะ"
"มุคุโร่!"
"นี่ ฮิบาริ"
"เรียกฉันว่าเคียวยะ"
"หะ"
"เคียวยะ"
"อ...เอ่อ...เคียวยะก็ได้" แม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่การยอมทำตามคำร้องขอกึ่งบังคับนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร
"ว่า?"
"นายเรียกชื่อฉันไม่ได้จริงๆ น่ะเหรอ ฉันไม่มีค่าพอจะให้นายเรียกชื่อฉันได้เลยเหรอ" เสียงเศร้าเอ่ยถามเบาๆ ทั้งๆ ที่ชื่อนั้นเจ้าตัวก็เป็นคนตั้งให้เขาเอง "...ฉันรู้ว่าฉันก็แค่ลูกน้อง แค่ตุ๊กตาที่นายปั้นขึ้นมา แต่ว่า..."
ร่างสูงระบายลมหายใจยาวออกมา มือหนาเอื้อมไปกระชับมือคนข้างๆ เอาไว้ "ไปด่ามุคุโร่เถอะ หมอนั่นมันทำให้นายเกลียดฉัน ถ้าฉันเรียกชื่อนาย"
"ไอ้เวร..." โกคุเดระพึมพำออกมาเบาๆ เหมือนเสียงหัวเราะกวนประสาทมันจะก้องขึ้นมาอยู่ในหูเสียอย่างนั้น
"อือ"
"แต่...นายไม่ต้องเรียกฉันว่าฮายะจังก็ได้ไหม หรือเรียกแค่นามสกุลมันก็ไม่น่าจะเป็นอะไรหรือเปล่า" พยายามที่จะต่อรอง ใช่...เขาถูกเรียกชื่อว่าโกคุเดระ ฮายาโตะก็จริง แต่การที่ชื่อตัวเองถูกหั่นเหลือแค่ ‘ฮายะ’ รวมถึงการเติม ‘จัง’ เข้าไปข้างหลัง มันค่อนข้างจะประหลาดไปหน่อย
...ก็มากประมาณหนึ่งนั่นแหละ
"นายไม่ชอบชื่อ ฮายะจังเหรอ"
"เออ"
"..."
"แค่ฟังแล้วขนลุกก็ได้"
"แต่ฉันชอบ"
"ฮิบาริ!"
"เคียวยะ"
"เออ เคียวยะ!" เขาเริ่มจะเกลียดผู้ชายตรงหน้าขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว บังคับให้เขาเรียกชื่อตัวเอง ในขณะที่ตัวเองกลับเรียกชื่อเขาด้วยชื่อที่น่าขนลุกนั่น
เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ฮิบาริพูดมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เขาไม่ได้ยินเจ้านั่นเรียกชื่อเขามานานมากแล้ว เขาไม่รู้ว่ายังเกลียดอยู่หรือเปล่า
แม้ว่าในความรู้สึกเลือนลาง เหมือนเขาจะเคย...เกลียดฮิบาริโดยไม่มีเหตุผล และเกลียดอย่างสุดใจ แต่นั้นมันก็รู้สึกเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่เกิดมาแล้วเนิ่นนาน ถ้านอกจากนิสัยเสียที่ชอบเรียกชื่อเขาด้วยชื่อแปลกๆ กับไร้ความรู้สึก และชอบบงการไปบ้าง ที่เหลือมันก็ไม่ได้มีอะไรเลวร้าย
...เขาจะยังเกลียดผู้ที่สร้างเขาขึ้นมาอยู่หรือเปล่านะ
- 4 -
“คิดถึงผมเหรอครับ วันนี้ไม่มีนัดต้องมาส่งงานนี่หน่า”
เสียงทักทายพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่ดูไม่น่าไว้วางใจ พาให้โกคุเดระ ฮายาโตะย่นคิ้วหากันด้วยความรำคาญใจ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เสียงกลั้วหัวเราะหายไปจากคนผมสีน้ำเงินเลย
“นาย...”
“ครับ?”
“ทำไมนายต้องทำให้ฉันเกลียดเคียวยะด้วย”
“เรียกชื่อเขาซะด้วย...”
โกคุเดระก้มหน้างุดเมื่อถูกคำพูดคล้ายจะหยอกล้อกับ ‘ชื่อ’ ที่เขาเรียกผู้เป็นนาย “เถอะน่า...ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย นายก็รู้ไม่ใช่หรือไง ว่ามันจะทำให้ชีวิตฉันลำบาก”
ดวงตาสองสีเจ้าเล่ห์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียว ที่ข้างในสะท้อนภาพของเขา...แต่กลับไม่มีเขา ริมฝีปากเรียวปากกระตุกยิ้มขึ้นมา
“รู้สิครับ รู้ดีด้วย”
“แล้ว...นาย โว้ยยย” เมื่อไม่สามารถกลั่นกรองความหงุดหงิดจากคำตอบออกมาเป็นคำพูดได้ โกคุเดระได้แค่ขมวดคิ้ว พลางร้องออกมาด้วยความโมโหกับการยั่วประสาทของอีกฝ่าย
“ฮายาโตะคุง...” เสียงทุ้มเอ่ยชื่อคนตรงหน้า แล้วเอื้อมมือไปจับนิ้วเรียวของอีกฝ่ายเอาไว้ “ผมอยากเป็นคนเดียวที่เรียกชื่อคุณได้มั้งครับ ไม่สิ...” เว้นวรรคครู่หนึ่ง “...ผมไม่อยากให้คุณฮิบาริได้คุณไปเลยมากกว่า”
น้ำเสียงที่ถ่ายทอดออกมา จังหวะในการพูดที่เชื่องช้า แต่มั่นคง ไม่ได้ทำให้ร่างเล็กรู้สึกว่าคำพูดที่ได้ยินเป็นเพียงคำพูดเล่นๆ หรือเพื่อกวนประสาทของเขาเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ายังไง
“ต...แต่...แต่ฉันต้องทำงานกับเคียวยะ เจ้านั่นเป็นคนสร้างฉันมานะ” พยายามจะพูดอะไรสักอย่างเพื่อทำลายบรรยากาศตรงหน้า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันมีอะไรดีขึ้นเท่าไร
“คุณรู้ไหมครับ...” มือยาวปล่อยมือของอีกฝ่ายออกให้เป็นอิสระ มุคุโร่เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี สองมือประสานกันไว้ “ว่าผมคาดว่าคุณกับคุณฮิบาริจะต้องมีปัญหากันทางใดไม่ก็ทางหนึ่งแน่นอน” หยุดเพื่อมองดูนัยน์ตาคู่เขียวที่ดูจะไม่สบอารมณ์สักเท่าไร คล้ายจะมีคำว่า ‘ก็รู้ตัวนี่’ อยู่กลายๆ
“แล้วถ้าเป็นแบบนั้นยังไง คุณก็น่าจะเลือกที่จะมาหาผม เพราะผมยังไงก็น่าไว้ใจมากที่สุดสำหรับคุณ” หยักยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วหัวเราะเบาๆ เมื่ออีกคนตวัดสายตาขึ้นมามองด้วยคำถามมากมายผ่านทางสายตากับคำพูดของเขา “...ครับๆ ไม่ต้องเห็นด้วยขนาดนั้นก็ได้”
โกคุเดระขมวดคิ้ว ให้ตายเถอะ...พูดออกมาได้ว่าตัวเองน่าไว้ใจมากที่สุด
“แต่คุณฮิบาริเขา...อืออ ค่อนข้างเหนือความคาดหมายของผมไป...เยอะมากเลยละครับ”
คนฟังเลิกคิ้วขึ้นคล้ายเป็นการตั้งคำถาม
“คุณฮิบาริในสมัยก่อนน่ะ เป็นผู้ชายที่...เรียกได้ว่าไร้น้ำใจ ใจดำ ใจร้าย และนิสัยเสียมากที่สุดคนหนึ่งเลยครับ” มุคุโร่กระพริบตาเบาๆ เมื่อหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต “ผมเลยคิดว่าถ้าทำให้คุณกับเขามีปัญหากันได้ มันน่าจะเป็นเรื่องที่น่าสนุกดี...แต่ว่า คนปากหนักแบบนั้นน่ะ กลับหาทางแก้ทางผมซะได้”
“...ด้วยการเปลี่ยนชื่อเรียกฉันไปเรื่อยๆ แบบนั้นน่ะเหรอ”
“เขาทำให้ผมประหลาดใจมากเลย” มุคุโร่หัวเราะเบาๆ ในลำคอ “แล้วก็ทำให้ผม...เสียใจมากเหมือนกัน” ดวงตาสีแปลกจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่ใส
ที่...ไม่เคยมีเขาอยู่
“คุณยังเกลียดคุณฮิบาริอยู่ไหมครับ”
โกคุเดระหลบสายตาที่จ้องมา จริงจังกับคำถาม เขาก็เคยถามตัวเอง เขาก็อยากรู้ว่าเขายังเกลียดฮิบาริ เคียวยะอยู่หรือเปล่า เขา...อยากจะลองให้เจ้านั่นเรียกชื่อเขาดูอีกสักครั้ง
“คุณฮิบาริเขาไม่เสี่ยงที่จะทำให้คุณเกลียดเขาหรอกครับ” คล้ายกับอ่านใจได้ รวมถึงอ่านใจของอีกคนที่มีเพียงชื่ออยู่ในบทสนทนา ตุ๊กตาที่ถูกปั้นมาด้วยความใส่ใจ ความรัก ความหลงไหลขนาดนั้น เขาเป็นเพียงคนที่เติมจิตวิญญาณ ยังไม่สามารถห้ามความรู้สึกได้ แล้วผู้สร้าง...
“งั้นนายก็ช่วยทำให้ฉันไม่เกลียดเคียวยะได้ไหม” คนตัวเล็กยื่นข้อเสนอในความคิด ในเมื่อมุคุโร่เป็นคนที่ทำให้เขาเกลียดได้ ก็ต้องปลดล็อกตรงนี้ได้ด้วยสิ แต่หากก่อนที่โกคุเดระจะได้เอ่ยอะไรเพิ่มเติม
“คุณชอบเขาเหรอครับ?”
“เอ๋...”
“ผมเสียใจจัง”
---- ตัดจบ /me
อิอิ ไม่คาดหวังว่าจะมีตอนต่อนะ เพราะเป็นฟิคพาโรดี้ที่...อือออออ คือเรื่องมันจบไปแล้ว ถ้าคุณฮิไม่ทำตัวมีปัญหา 55555555555555 สิบปีผ่านไปกลับมาอ่านฟิคตัวเอง แล้วพบว่าถ้าคุณฮิเลือกเวย์นี้ก็จะสามารถ Turn เป็นฟิคคอมเมดี้ไปได้เลย
และทำให้การจีบก๊กของมุคุโร่ยากไปอีก
และจะทำให้เรื่องนี้ ไม่กลายเป็น 6959 ไปซะงั้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น